ถ้ากล่าวถึงผลิตภัณฑ์ฉนวนกันความร้อนในวงการวัสดุก่อสร้าง หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ ‘AERO-ROOF’ อย่างแน่นอน และในงานสถาปนิก’68 AERO-ROOF ภายใต้ บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด กลับมาอีกครั้งพร้อมยกระดับความพิเศษด้วยไฮไลท์ประจำงานสถาปนิก’68 ที่นอกจากจะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์คุณภาพ ปลอดภัยต่อการอยู่อาศัย AERO-ROOF ยังคงไม่หยุดพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ เพื่อสานต่อความเชื่อมั่นผ่านบทสัมภาษณ์คุณพีรพัฒน์ วิทูรปกรณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัท แอร์โรเฟลกซ์ จำกัด
คุณพีรพัฒน์ได้บอกเล่าถึงประสบการณ์จากงานสถาปนิก’67 และการนำเอาประสบการณ์นั้นมาต่อยอดในด้านธุรกิจและการพัฒนาสินค้า กล่าวคือ ความเข้าใจตลาดที่มากยิ่งขึ้น และเปรียบเป็นพื้นที่ในการเรียนรู้ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัย การประหยัดพลังงาน ก่อนนำข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการพูดคุยกับผู้เข้าชมงานมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ AERO-ROOF ให้ตรงตามความต้องการมากยิ่งขึ้น ในส่วนของการสร้างเครือข่าย จากการพบกับผู้เข้าชมงาน หรือสถาปนิก สามารถนำมาต่อยอดเพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีได้ อีกทั้งยังมีโอกาสร่วมมือกับแบรนด์พันธมิตรใหม่ ๆ ซึ่งมีส่วนช่วยในการขยายตลาด ส่งผลให้สามารถศึกษาคู่แข่งและก้าวทันกระแสหรือแนวโน้มเทรนด์ในอนาคต และนำมาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ จากทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั่นคือเหตุผลที่ AERO-ROOF ได้เรียนรู้จากการเข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้จัดแสดงสินค้าที่งานสถาปนิก
“งานสถาปนิก’67 ช่วยให้เรามีมุมมองที่กว้างมากขึ้น ในแง่ของความต้องการตลาด และแนวโน้มใหม่ ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต” คุณพีรพัฒน์กล่าว
AERO ROOF กลยุทธ์สร้างความโดดเด่น
คุณสมบัติของฉนวนกันความร้อนเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้ AERO-ROOF แตกต่างท่ามกลางสนามแข่งขันในวงการ กล่าวคือ วัสดุหลักอย่าง ยาง Pioneer-EPDM ที่มีคุณสมบัติเด่นคือ สามารถป้องกันความร้อนได้ดีกว่าฉนวนทั่วไป ด้วยความหนาเพียง 10 มม. และไม่ลามไฟ ใช้ในระยะยาวแล้วไม่เกิดฝุ่นผง ซึ่งช่วยมอบความมั่นใจและปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน อีกทั้งโครงสร้างเซลล์ปิด ทำให้ความชื้นไม่สามารถแทรกซึมได้ ยืดอายุการใช้งานได้มากกว่า 10 ปี และ AERO-ROOF เป็นแบรนด์เดียวในตอนนี้ที่นำเอายาง EPDM มาใช้
แต่ในขณะเดียวกัน AERO-ROOF ก็มุ่งมั่นพัฒนาและสร้างกลยุทธ์ในการแข่งขันทางธุรกิจในอนาคต ทั้งในแง่ของการวิจัยและพัฒนา (R&D), การขยายตลาด, การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ และการพัฒนาสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าจะตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า และสนับสนุนเหตุผลด้านความยั่งยืนได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้
ซึ่งเทรนด์ที่เปลี่ยนไปของสังคมทั้งการเข้ามาของสังคมผู้สูงอายุ หรือ ESG Model นั้นต่างมีผลในแง่ของการปรับตัวให้ทันกระแสสังคมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้แบรนด์ยังใส่ใจทุกรายละเอียด ในด้านของคุณภาพ ไปจนถึงความปลอดภัยต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม ที่ได้รับมาตรฐานต่าง ๆ อาทิ Greenguard, Carbon footprint, Water footprint, Environmental Product Declarations และ Circular Mark คุณพีรพัฒน์.เสริมอีกว่า ในปี 2042 บริษัทฯ ตั้งเป้าในการเป็น Net Zero Emission หรือการเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์และเป้าหมายของแบรนด์ด้านความยั่งยืน
AEROCOUSTIC-SP ผลิตภัณฑ์ใหม่: ไฮไลท์ที่พร้อมให้พิสูจน์
AERO-ROOF นำเสนอผลิตภัณฑ์ดูดซับเสียง ซึ่งจะมาแก้ปัญหาเรื่องเสียงรบกวนต่าง ๆ เพิ่มความเป็นส่วนตัว ด้วยคุณสมบัติที่สามารถดูดซับเสียงได้มากถึง 90% และการติดตั้งที่สะดวก ไม่ยุ่งยาก โดยติดตั้งได้ทุกพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นฝ้าเพดาน ผนัง เหมาะกับบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ห้องประชุม เป็นต้น
สัมผัสผลิตภัณฑ์และพิสูจน์ตัวตนอันแท้จริงของ AERO-ROOF
AERO-ROOF ขอร่วมเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งภายในงานสถาปนิก’68 และพิสูจน์คุณภาพสินค้าจากแบรนด์คนไทยว่าคุณภาพไม่แพ้ต่างประเทศ คุณพีรพัฒน์ทิ้งท้ายเชิญชวนผู้เข้าร่วมงานไว้ว่า
“AERO-ROOF แบรนด์ของคนไทย ที่คัดสรรวัสดุคุณภาพและทดสอบทุกกระบวนการผลิต มั่นใจว่าได้มาตรฐานรองรับ ตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาเรื่องความร้อนในบ้านได้อย่างแน่นอน เราคาดหวังว่าจะได้รับการพิจารณาสินค้าจากลูกค้าใหม่ที่มากขึ้น มาพิสูจน์สัมผัสตัวตนของ AERO-ROOF ได้ที่งานสถาปนิก’68”
เตรียมพบกับไฮไลท์ผลิตภัณฑ์ใหม่จาก AERO-ROOF ได้ที่บูธหมายเลข D207/1 ในงานสถาปนิก’68 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568 เวลา10.00-20.00 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี