29 เม.ย. - 4 พ.ค. - อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์
29 เม.ย. - 4 พ.ค. - อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์
#architect’25

GIO ผู้นำด้านการออกแบบชุดครัว มุ่งเน้นการพัฒนา เพื่อสร้างตัวเลือกที่ดีกว่าให้ผู้บริโภค ในงานสถาปนิก’68

     หากกล่าวถึง “ครัว” หลายคนคงนึกถึงพื้นที่ประกอบอาหาร แต่สำหรับ คุณแอรอน โจว (Aaron Chou) กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีโอโฮมคิทเช่น จำกัด “ครัว” คือ พื้นที่แสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่คัดสรรวัสดุคุณภาพ มาพร้อมดีไซน์สวยงามและหรูหรา เพื่อให้ผู้ใช้งานได้พบตัวเลือกที่หลากหลาย ร่วมสำรวจแนวคิดทางธุรกิจภายใต้แบรนด์ GIO ในฐานะแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน ตอบสนองทุกความต้องการของคนรักครัว

GIO เติมแต่งความกลมกล่อมให้ธุรกิจครัว ด้วยบทบาทผู้ริเริ่ม

     GIO ถือเป็นแบรนด์ชุดครัวแบรนด์หนึ่ง ที่ริเริ่มสร้างความแตกต่างให้กับวงการออกแบบและอุตสาหกรรมครัว โดยคุณแอรอนบอกเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนวัสดุชุดครัวว่า “ย้อนเวลากลับไปตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ในช่วงนั้นครัวสแตนเลสที่เป็นสไตล์โมเดิร์นยังไม่มีในท้องตลาด เพราะเมื่อก่อนแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงชุดครัวส่วนใหญ่นิยมใช้ไม้ปาติเกิล หากกล่าวถึงครัวสแตนเลส คนทั่วไปมักนึกถึงครัวอุตสาหกรรม GIO จึงริเริ่มทำครัวสแตนเลสแต่เป็นสไตล์ยุโรป ก่อให้เกิดการพัฒนาหลายด้าน ทั้งดีไซน์ วัสดุที่คัดเลือกเกรดที่ดีที่สุด เพื่อสร้างมาตรฐานตัวเลือกที่ดีกว่าเพื่อลูกค้า”

     “ทุกปีแบรนด์จะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่เสมอ อีกทั้งยังเป็นแบรนด์แรกในไทยที่นำ LED ในตู้ เข้ามาในวงการเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากการดูงานที่ยุโรป GIO จึงรับเป็นตัวแทนจำหน่าย ถือเป็นการเปิดตลาด LED ในเฟอร์นิเจอร์ ไม่เช่นนั้นทุกคนก็คงต้องใช้ LED เป็นเส้นที่ทำการเซาะร่องและแปะ LED เข้าไป ซึ่งนอกจากไม่สวยงาม ยังทำให้เห็นเม็ดสีเป็นเม็ดด้วย โดยแบรนด์ที่ GIO นำเข้ามามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่เกิดเม็ดสีและมีฝาปิดพร้อมด้วยเซ็นเซอร์เข้ามา ซึ่งถือเป็นแบรนด์อันดับ 1 ของโลกในด้าน LED เพราะ 40-50% ของครัวยุโรปแบรนด์ชั้นนำจะใช้ไฟของแบรนด์นี้”

     “ในส่วนของวัสดุอื่น ๆ ที่ GIO เป็นผู้ริเริ่มในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยังมีอีกหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นตะแกรงที่นำเข้าชุบด้วยไทเทเนียม ในขณะที่แบรนด์อื่นชุบด้วยโครเมียม นอกจากนี้ GIO ยังเป็นเจ้าแรกที่นำเซรามิกมาทำเป็นเคาน์เตอร์ท็อปหน้าบาร์ ซึ่งในเอเชียยังไม่มีแบรนด์ที่นำเซรามิกมาเป็นวัสดุในการทำชุดครัว โดย GIO ถือเป็นแบรนด์แรก ประกอบกับการใช้เฟรมอลูมิเนียมมาใช้ร่วมด้วย ในขณะที่แบรนด์อื่น ๆ ยังใช้ไม้ในการทำชุดครัว”

คุณภาพและบริการ ความแตกต่างที่เป็นจุดแข็งของ GIO

     จากการเข้าร่วมงานสถาปนิก’67 ที่ผ่านมา คุณแอรอนเผยถึงผลตอบรับของแบรนด์ GIO ที่ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี ลูกค้าให้ความสนใจเป็นอย่างมากทั้งในส่วนของลูกค้าเก่าและใหม่ ซึ่งกระแสตอบรับที่ดีจากฐานลูกค้าของ GIO มาจากคุณภาพและบริการ

     คุณแอรอนกล่าวถึงข้อแตกต่างระหว่าง GIO และแบรนด์อื่นไว้ว่า “เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น สิ่งที่เห็นได้ชัดเลย คือ ผลิตภัณฑ์ของ GIO เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้คุณภาพ วัสดุผ่านการคัดเลือกอย่างใส่ใจ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาในด้านของเทคโนโลยี หากกล่าวถึงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ที่ใส่ใจรายละเอียดทุกขั้นตอน จะทำให้ใช้ระยะเวลานานในการผลิต ซึ่งหลายแบรนด์ก็มองข้ามจุดนี้ ทำให้ GIO ต่างจากแบรนด์อื่น”

     “GIO มองถึงการใช้งานระยะยาว การเลือกวัสดุรวมถึงกระบวนการผลิตจึงได้มาตรฐานทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการใช้งาน ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ไป จนถึงตอนนี้เวลาผ่านไปกว่า 10 ปี ก็ยังใช้งานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้หากเกิดปัญหากับผลิตภัณฑ์แบรนด์ ก็มีบริการดูแลหลังการขาย ยกตัวอย่างลูกค้าที่ใช้บริการของ GIO 2-3 ปี ในตอนนั้นแบรนด์พบปัญหาด้านสีของบาร์ที่ติดสีเหลือง ซึ่งปัญหามาจากโรงงาน GIO จึงทำการเปลี่ยนสีชุดครัวให้ลูกค้าใหม่ทั้งหมด ทำให้ลูกค้าประทับใจบริการดังกล่าว เมื่อมีการทำบ้านใหม่ลูกค้าจึงกลับมาเพื่อใช้บริการอีกครั้ง

พัฒนาผลิตภัณฑ์ควบคู่กับกระแสสังคม เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค

    ยุคปัจจุบันกระแสสังคมที่ได้รับความนิยมในวงการออกแบบและก่อสร้าง คงหลีกเลี่ยงไม่พ้น Green Construction รวมถึงเทรนด์ผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสังคมไทย ทำให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์การใช้งานโดยสอดคล้องกับเทรนด์ดังกล่าว

     “GIO ใช้แนวคิด Green Construction หรือ Green Product มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน วัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตเน้นความทนทาน ยกตัวอย่าง การผลิตตู้บริษัทเลือกใช้วัสดุที่มีโครงสร้างเป็นสแตนเลส ซึ่งมีความทนทานกว่าไม้ ทำให้ไม่ต้องตัดไม้เพิ่ม”

     “ในกรณีที่ผลิตภัณฑ์ชนิดใดใช้วัสดุที่เป็นไม้ GIO จะเลือกใช้ไม้ OSB บอร์ด โดยคุณสมบัติของไม้ดังกล่าวจะมีความยืดหยุ่น ความแข็งแรงเทียบเท่าไม้อัดแต่ดีกว่าเพราะเป็นเกรด E0 ซึ่งจะดีกับสุขภาพของผู้ใช้เพราะมีฟอร์มาลดีไฮด์มาตรฐาน E0 ซึ่งในท้องตลาดยังคงเป็น E1, E2 อยู่ สำหรับผู้สูงอายุถือว่าอันตราย และสาเหตุที่ท้องตลาดยังใช้ไม้มาตรฐานดังกล่าว เนื่องจากราคาสูงตามคุณภาพ แต่ GIO เลือกใช้ไม้ OSB บอร์ดมาตรฐาน E0 เพราะคำนึงถึงสุขภาพของผู้บริโภค ลูกค้าที่ใช้เฟอร์นิเจอร์ของแบรนด์จะพบว่าหลังจากติดตั้ง ไม่มีกลิ่นของสารเคมีเลย ตรงข้ามกับแบรนด์อื่น ๆ หากทำการ Built-in อาจต้องใช้เวลาครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือนเพื่อรอเวลาให้กลิ่นสารเคมีต่าง ๆ จางลง เรียกได้ว่า GIO คัดสรรวัสดุที่ใช้ครอบคลุมทั้งด้านเทรนด์รักษ์โลกและเทรนด์ผู้สูงอายุนั่นเอง”

GIO กับการออกแบบชุดครัว ที่พร้อมเปิดตัวในงานสถาปนิก’68

     แม้ว่า GIO จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ทุกปี แต่ความพิเศษสำหรับปีนี้คือรูปแบบที่เปลี่ยนไปของผลิตภัณฑ์ชุดครัว ที่ความนุ่มลึกมากยิ่งขึ้น “GIO มีการพัฒนาด้านดีไซน์ซึ่งจะมีดีไซน์โค้งมนเพิ่มเข้ามา โดยซัพพลายเออร์มีการพัฒนาสินค้าในส่วนนี้ ส่งผลให้แบรนด์นำมาพัฒนาต่อยอดได้ ในปีนี้จึงจะได้พบผลิตภัณฑ์ของ GIO ในรูปแบบที่แปลกตามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลายใหม่ รวมถึงดีไซน์ จะมีการเพิ่มลูกเล่นให้มีเคิร์บมากขึ้น”

     “นอกจากนี้ยังมีไฟ LED คอลเลกชันใหม่ รวมถึงการเพิ่มลายหินในการทำหน้าบาร์แบบใหม่ ซึ่งจะมีตัวเลือกสีเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งหน้าบาร์ที่จากเดิมมีแค่สไตล์โมเดิร์น GIO จะมีการเพิ่มความคลาสสิกเข้ามาผสมผสานกลายเป็นดีไซน์โมเดิร์นคลาสสิก”

     “ในงานสถาปนิก’68 GIO จะมีสินค้าใหม่ที่ GIO ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อก่อนแบรนด์อาจจำกัดแค่สไตล์โมเดิร์น ต่อจากนี้จะมีสไตล์ที่เป็นคลาสสิกและความโค้งมนเพิ่มเข้ามา ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมขณะนี้ ลูกค้าจะได้สัมผัสความแปลกใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบที่งานสถาปนิก’68”

     เตรียมสัมผัสดีไซน์สร้างสรรค์และแปลกใหม่ของชุดครัวและเฟอร์นิเจอร์ แบรนด์ GIO ภายใต้ บริษัท จีโอโฮมคิทเช่น จำกัด บูธ S303 ได้ที่งานสถาปนิก’68 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ป้ายกำกับ :
แชร์

บทความอื่นๆ

#architect’25