บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เป็นส่วนหนึ่งของ ปิโก กรุ๊ป ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 50 ปี ปัจจุบันบริษัทมีเครือข่ายครอบคลุมกว่า 36 เมืองทั่วโลก และมีทีมงานมืออาชีพมากกว่า 2,300 คนในการให้บริการลูกค้า
ทำความรู้จัก ปิโก
ปิโก ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดแบบ Total Brand Activation โดยหลักการของแบรนด์ คือการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย ภายใต้การผสมผสานความเชี่ยวชาญ 3 ด้านหลัก คือ
- Experience Design: เปลี่ยนแนวคิดและกลยุทธ์ของแบรนด์ ให้เป็นประสบการณ์จริงที่น่าจดจำ
- Digital Engagement: ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สร้างปฏิสัมพันธ์ที่น่าสนใจและดึงดูดใจผู้บริโภค
- Brand Engagement: สร้างแคมเปญที่บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์อย่างมีเอกลักษณ์ เพื่อสร้างความเข้าใจและเชื่อมโยงแบรนด์กับผู้บริโภค
ประสบการณ์ออกแบบ-ก่อสร้างเพื่อโลกที่ยั่งยืนแบบฉบับ ปิโก
บทบาทในฐานะบริษัทออกแบบ-ก่อสร้างของ ปิโก (ไทยแลนด์) คือการมีส่วนร่วมสร้างสรรค์บูธงานแสดงสินค้าให้กับหลากหลายแบรนด์ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยแต่ละโครงการล้วนเป็นการผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์ และความเข้าใจในแบรนด์ของลูกค้า
ร่วมกับการออกแบบที่ยั่งยืนโดยการใช้วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ ใช้วัสดุรีไซเคิล หรือวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ใช้หน้าจอ LED, AR/VR, AI ในการสร้างสรรค์บูธ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่มีส่วนร่วมมากขึ้น
“ตัวอย่างงานเคยทำโดยยึดหลักการ 3 ด้านของบริษัท คือ งาน SX 2023 ซึ่งปิโกเปลี่ยนพื้นที่จัดงานให้กลายเป็นเหมือนห้องเรียนขนาดใหญ่ สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น จอ LED ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ แทนการใช้โครงสร้างไม้และสติ๊กเกอร์ที่จะก่อให้เกิดขยะและคาร์บอนฟุตพริ้นท์ การใช้หน้าจอสัมผัสและเกมที่ทำให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้ ทำให้การเรียนรู้เรื่องความยั่งยืนเป็นเรื่องที่สนุกและน่าสนใจมากขึ้น ผู้เข้าร่วมงานจะได้ทั้งความรู้และความบันเทิงไปพร้อมกัน”
“บูธธนาคารกสิกรไทย ในงาน Money Expo 2023 เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ปิโกประทับใจ ด้วยการออกแบบ-ก่อสร้าง ขนาด 850 ตารางเมตร ที่ได้นำแนวคิดเรื่องความยั่งยืนมาใช้ในการออกแบบ ให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของธนาคาร ที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในมิติต่างๆ ของการดำเนินธุรกิจ โดยใช้วัสดุที่มีอยู่ในการออกแบบและตกแต่ง ลดการใช้สีเพื่อเผยเนื้อสัมผัสที่เป็นธรรมชาติของวัสดุ รวมถึงลดการใช้สารเคมี ประกอบกับการใช้วัสดุชิ้นส่วนล็อกลวด เพื่อลดการปล่อยความร้อนในการเชื่อมวัสดุ และลดระยะเวลาในการทำงาน นอกจากนี้วัสดุตกแต่งทั้งหมดสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลังจากการรื้อถอน”
“และสุดท้ายคือการเข้าร่วมงานสถาปนิก’58 โดยได้ให้บริการด้านการออกแบบ-ก่อสร้าง และบริหารจัดการพาวิลเลียนที่มีพื้นที่ 6,000 ตร.ม. ซึ่งเน้นการใช้วัสดุรีไซเคิลและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้กระดาษรีไซเคิลมาทำเป็นฉากกั้นบริเวณพาวิลเลียนกว่า 200,000 แผ่น และหลังจากจบงานกระดาษเหล่านี้ถูกนำไปบริจาคให้กับนักศึกษาและสถาปนิก สำหรับนำไปใช้ประโยชน์ต่อ นอกจากนี้เฟอร์นิเจอร์ในพาวิลเลียนก็ทำมาจากเฌอร่า ซึ่งเป็นวัสดุที่ผลิตจากปูนซีเมนต์และเส้นใยธรรมชาติ สามารถนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ได้ถึง 30% และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย”
ปิโก กับมุมมองทิศทางการออกแบบในอนาคต
ปัจจุบันมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างแพร่หลาย มีการนำเทคโนโลยีไปปรับใช้ในหลายอาชีพ ซึ่งปิโกได้ให้มุมมองเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีร่วมกับการออกแบบ-ก่อสร้างไว้ว่า “นิทรรศการและงานแสดงสินค้าได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากที่เคยเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ มีการพัฒนาและให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้เข้าชมมากขึ้น โดยมุ่งเน้นที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์ที่น่าจดจำและดึงดูดใจ”
“การออกแบบบูธมีการบูรณาการเทคโนโลยีมากขึ้น เช่น AR (Augmented Reality), VR (Virtual Reality), 3D, AI (Artificial Intelligence) และ Automation เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตัวอย่างเช่น การใช้ AR เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถเห็นภาพผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ 3 มิติ หรือการใช้ AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เข้าชมและปรับเปลี่ยนเนื้อหาที่แสดงผลให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล”
“นอกจากนี้ ยังมีการใช้เทคโนโลยีช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ ที่ปรับได้ตามความชอบและพฤติกรรมของผู้เข้าชมแต่ละราย ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกว่าบูธได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเขา ช่วยสร้างความประทับใจและการจดจำแบรนด์ได้เป็นอย่างดี บริษัทสามารถรวมข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เข้าชม พร้อมทั้งสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงการออกแบบบูธ รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในครั้งต่อไปได้อีกด้วย”
“ปิโกมีมุมมองด้านการออกแบบบูธในอนาคต ซึ่งจะให้ความสำคัญกับการผสมผสานประสบการณ์หลากหลายประสาทสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการใช้เสียงที่ไพเราะ กลิ่นหอมที่ชวนหลงใหล หรือการสัมผัสวัสดุที่มีเอกลักษณ์ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดึงดูดและน่าจดจำ เพื่อให้ประสบการณ์ของผู้เข้าชมสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความยั่งยืนและความสามารถในการปรับเปลี่ยน ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบให้สามารถประกอบและถอดออกได้ง่าย และการนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือสามารถนำไปรีไซเคิลได้ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”
ครบครันด้านโซลูชั่น ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านงานออกแบบ-ก่อสร้าง
ด้วยประสบการณ์อันยาวในการออกแบบ-ก่อสร้างบูธของปิโก ซึ่งแสดงให้เห็นศักยภาพในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุหรือขั้นตอนการออกแบบเพื่อโลกที่ยั่งยืน รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้ผู้เข้าชม
และด้วยการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 ตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งเป็นการรับประกันคุณภาพของงานและบริการทุกขั้นตอน จึงการันตีได้ว่าปิโกมีความเข้าใจถึงความสำคัญของการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และสร้างความแตกต่าง อีกทั้งยังนำเสนอโซลูชั่นที่ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์, การออกแบบ, การผลิต และการจัดการโครงการ
“ปิโกทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด จึงเข้าใจความต้องการของลูกค้าและสามารถนำเสนอแนวคิดที่สร้างสรรค์และตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุด พร้อมนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง มาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์บูธให้มีความทนทานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หากกำลังมองหาบริษัทออกแบบ-ก่อสร้างบูธ ขอให้ไว้วางใจปิโก-ไทยแลนด์”
เตรียมสัมผัสความสวยงามและสร้างสรรค์ด้านการออกแบบบูธของบริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ได้ที่งานสถาปนิก’68 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี