REP FLOOR บริษัทจัดจำหน่ายปูนเพื่อการก่อสร้าง ด้วยประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการกว่า 21 ปี มาร่วมศึกษาทัศนะและมุมมองการดำเนินธุรกิจที่ผกผันตามกาลเวลาและเทรนด์ในอุตสาหกรรมก่อสร้างว่าส่งผลอย่างไรต่อ REP FLOOR และค้นหาคำตอบผ่านผลิตภัณฑ์ในเครือ ซึ่งพัฒนาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ผ่านบทสัมภาษณ์คุณวสันต์ ศีตสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรฟ ฟลอร์ จำกัด และ บริษัท รีเอ็นเทค จำกัด
ต่อยอดความสำเร็จจากสถาปนิก’67 สู่ สถาปนิก’68
ภายในงานสถาปนิก’67 ที่ผ่านมา บริษัท เรฟ ฟลอร์ จำกัด และ บริษัท รีเอ็นเทค จำกัด เปิดตัวสินค้าใหม่ ‘CrystalTop’ ปูน Topping ที่มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ คือ เมื่อฉาบแล้วความหนาเพียง 10-12 มิลลิเมตร ประกอบกับลักษณะ texture ที่ช่วยให้ปูนไหลตัวดี ไม่หนืด อีกทั้งเซ็ทตัวเร็ว นอกจากนี้จากคุณสมบัติเบื้องต้นทำให้ขัดขึ้นเงาได้ภายใน 24 ชั่วโมง ไม่แตกร้าวจากการหด อีกทั้งสามารถใช้ CrystalTop ผสมกับหินสวยงาม หรือเปลือกหอยอื่น ๆ ทำให้รูปลักษณ์คล้ายคลึงกับหินขัด Terrazzo เพิ่มลูกเล่นและกิมมิคให้ผลิตภัณฑ์ โดยคุณวสันต์แชร์ถึงกระแสตอบรับที่ได้รับจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ‘CrystalTop’ ว่าได้รับกระแสตอบรับเชิงบวกจากทั้งสถาปนิก ดีไซเนอร์ ไปจนถึงกลุ่ม End-User ก็ดี
จากกระแสตอบรับที่ดีนั้น ทางคุณวสันต์ ยังบอกเล่าถึงกระแสปากต่อปากที่ต่อยอดจากผู้เข้าชมงานสถาปนิกว่าทำให้หลังจากจบงานสถาปนิก’67 REP FLOOR ยังคงได้ฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
‘พิเศษ ใส่ใจ’: Specialist ด้าน Polished Concrete
จุดเด่นที่ทำให้ REP FLOOR สร้างจุดยืนท่ามกลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เดียวกันได้นั้นคือความเป็นเอกลักษณ์และความใส่ใจ ไปจนถึงความเฉพาะตัวที่ส่งต่อไปถึงลูกค้าที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ โดย REP FLOOR ตั้งเป้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Polished Concrete ประกอบกับกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นมอบความรู้ความเข้าใจแก่กลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในการใช้งาน
“REP FLOOR พัฒนามาเรื่อย ๆ และกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย ทั้งด้านกำลังการผลิต ด้านคุณภาพ และด้านการตลาด เราเน้นการให้ข้อมูลความรู้แก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าที่ดี ตรงตามความต้องการ” คุณวสันต์ กล่าวถึงกลยุทธ์ด้านการตลาด
การเปลี่ยนแปลงหรือผลัดเปลี่ยนของยุคสมัยมีผลต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์เช่นเดียวกัน เนื่องจากเทรนด์อุปโภคบริโภคของผู้คนเปลี่ยนไป เช่น ‘CrystalTop’ ผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่ต่อยอดจาก Pain Point เรื่องการใช้งานปูนทั่วไปว่าไหลตัวช้า เมื่อเจอความร้อนเกิดการหดตัว อีกทั้งเซ็ตตัวช้า นอกเหนือจากคุณสมบัติที่กล่าวไปข้างต้นแล้วนั้น CrystalTop ตอบโจทย์ความต้องการรักสิ่งแวดล้อมโดยตรง เพราะปล่อย Carbon Footprint ปริมาณต่ำ โดยแรกเริ่มบริษัทเริ่มจาก Epoxy, PU ซึ่งข้อเสียคือปล่อยสาร VOC ที่เป็นพิษต่อทั้งคนและสิ่งแวดล้อม ต่อมาบริษัทจึงเปลี่ยนมาทำ Polished Concrete ภายใต้ชื่อ CrystalFloor ปัจจุบันมีพื้นที่ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านตารางเมตร การันตีว่าเป็นที่ยอมรับจากลูกค้าโดยทั่วกัน บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นที่พาบริษัทไปสู่ Green Construction & Low Carbon
“CrystalTop จะเปลี่ยนมุมมองของนักออกแบบที่ยังคงกังวลกับพื้นหินขัด เพราะปัญหาเรื่องพื้นแตกร้าว ในจุดนี้เองที่ CrystalTop เข้ามาแก้ปัญหาให้กับนักออกแบบหรือผู้ใช้งาน, End Users และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จาก REP FLOOR คือ CrystalFloor เพราะคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยล็อกหน้าพื้นและลวดลายพื้นสไตล์ Terrazzo ให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง นอกจากนิ้ REP FLOOR ยังจัดหาหินต่าง ๆ ที่แตกต่างด้วยลวดลายและสีสันนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อเพิ่มความสนุกและท้าทายแก่นักออกแบบทุกคน เพราะมุ่งหวังให้ CrystalFloor ถูกใจและโดดเด่นสะดุดตา”
นอกเหนือจากจะเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนแล้ว แบรนด์ยังส่งเสริมเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน เพราะ REP FLOOR ต้องการสร้างแรงขับเคลื่อนในวงการออกแบบ-ก่อสร้างให้กล้าทลายข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มความท้าทายแก่นักออกแบบ-ผู้ก่อสร้าง นักพัฒนา ด้วยผลิตภัณฑ์จาก REP FLOOR
สัมผัสประสบการณ์และแลกเปลี่ยนความรู้ผลิตภัณฑ์ CrystalFloor และ CrystalTop จาก REP FLOOR ได้ที่บูธ F209 ในงานสถาปนิก’68 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 4 พฤกษภาคม 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี