หากคุ้นเคยภาพบูธสีสันสดใสจากแผ่นอะคูสติกหลากสี และแผงเส้นไหมระยิบตาที่ปกคลุมล้อมรอบ Pavilion ของ Royal Thai ภายในงานสถาปนิก’67 ที่ผ่านมานั้น เราขอเชิญชวนสำหรับงานสถาปนิก’68 สัมผัสบูธ บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชัน จำกัด (TCM) ซึ่งมีแบรนด์ในเครือทั้ง Royal Thai, Carpet Inter ซึ่งคุ้นเคยในวงการพรมกันดี พร้อมด้วยแบรนด์น้องใหม่ที่มาเสริมทัพซึ่งเปิดตัวไปในงานสถาปนิก’67 อย่าง RT acoustic และ RT Studio พร้อมอีกครั้งที่จะต่อยอดความสำเร็จจากที่ผ่านมา มาร่วมค้นหาและศึกษานิยามที่สะท้อนตัวตนของ TCM ได้จากบทสนทนาของคุณอรกร นันทน์นาราญา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด Royal Thai Group บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอร์เรชัน จำกัด (มหาชน)
ผลตอบรับจากงานสถาปนิกต่อยอดการบริการ
“งานสถาปนิก’67 บูธของเราได้ผลตอบรับจากผู้เข้าชมเป็นอย่างดี เราเน้นการดีไซน์ของบูธกับแบรนด์น้องใหม่ในเครือ Royal Thai คือ RT acoustic ที่แสดงถึงการนำแผ่นอะคูสติกมาสร้างให้เกิดการดีไซน์ที่จัดจ้านพร้อมฟังก์ชั่นซับเสียงอย่างมืออาชีพ ภายในบูธเรามีจัดห้องโชว์ acoustic performance ให้ผู้เข้าชมงานมาสัมผัสคุณสมบัติด้วยตัวเอง ซึ่งมีดีไซเนอร์และสถาปนิกสนใจผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น”
จากผลตอบรับงานสถาปนิก’67 ซึ่งเป็นไปในทางบวก สามารถนำไปต่อยอดและสร้างจุดเด่นของแบรนด์ได้ กล่าวคือ TCM ดำเนินธุรกิจที่เน้น Total Solution Provider โดยเมื่อรับรู้ถึงความต้องการของลูกค้าแล้ว จึงคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการ
“เราไม่ใช่แค่เสนอผลิตภัณฑ์ Acoustic เราเป็น Solution Provider ให้ลูกค้า คือจะแนะนำว่าตรงไหนควรติด ถ้าไม่จำเป็นต้องติดทั้งห้อง เลือกจุดที่เสียงตกกระทบ แล้ววัดค่าการดูดซับเสียงทั้งก่อนและหลังติดตั้ง เราจะแนะนำแบบนั้นและจะบอกลูกค้าว่ามันจะให้ผลลัพธ์อย่างไร เรามีดีไซเนอร์ให้คำปรึกษาด้วยว่าพื้นที่แบบนี้ควรใช้แผ่นแบบไหน มีเลเยอร์หรือแบบสามมิติ ติดผนังหรือเพดาน จนถึงการติดตั้งและติดตามผล เพื่อให้ลูกค้าพิจารณา และคอยช่วยลูกค้าแก้ปัญหาให้ตรงจุดทั้งการออกแบบและเรื่องงบประมาณ ซึ่งได้รับการตอบสนองที่ดีมากสำหรับแผ่นอะคูสติก”
สนับสนุน ESG ส่งมอบความยั่งยืนสู่สังคม
TCM เป็นผู้นำด้าน Green Design & Construction และ ESG ซึ่งบุกเบิกมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี กระทั่งปัจจุบันในด้าน ESG ทางโรงงานได้มีการบำบัดน้ำเพื่อนำมาใช้เวียนภายในโรงงาน เช่น การใช้เครื่องย้อมไหมที่ลดการใช้น้ำ การบำบัดน้ำเสียภายใน นอกจากนี้ขยะที่เหลือจากกระบวนการผลิตอย่างเศษไหม wool ที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลัก ก็สามารถนำไปใช้ในการผลิตปูน หรือปุ๋ย อีกทั้งส่งเสริมการออกแบบ custom-made ผลิตตามออเดอร์ ทำให้ไม่เกิดขยะจากอุตสาหกรรมมากเกินไปหรือการใช้วัตถุดิบโดยไม่จำเป็น
“ถ้าพูดถึงเรื่องความยั่งยืน เราเรียกได้ว่า “เราเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน” เพราะเราทำจริงและทำก่อน เราเริ่มคิดถึงเรื่องสิ่งแวดล้อมมานาน เริ่มตั้งแต่ลด เช่น ลดการใช้น้ำ ลดของเสีย ลดการใช้ทรัพยากร ลดการย้อมไหมสต็อกจำนวนมากๆ เมื่อลดแล้ว เราก็เพิ่ม คือ เพิ่มการใช้ซ้ำ การใช้แบบหมุนเวียน เช่นการใช้น้ำจากการย้อมมา Recycle ให้ทำบริสุทธิ์ขึ้น และส่งกลับสู่กระบวนการผลิตในส่วนที่ทำได้ หรือเอาไปรดต้นไม้ เพิ่มความเขียวในโรงงาน เพิ่มอากาศที่ดีบริเวณโรงงานเรา เพิ่มการ Recycle เส้นไหมมาปั่นใหม่ให้เป็นไหม recycle ที่มีสีสันที่เฉพาะ เราเพิ่มการใช้พลังงานสะอาด เพิ่ม Solar cell ทุกๆปี และไม่มีการปล่อยของเสียออกสู่ชุมชนเลย และที่สำคัญเมื่อลดของเสีย เพิ่มการใช้ซ้ำ หากมีขยะของเสียที่ยังสามารถทำประโยชน์ได้อีก เราจะเอาไปทำต่อ เช่น เอาไปทำปุ๋ย ส่งโรงงานปูนเพื่อทำปูนซีเมนต์ กิจกรรมแบบนี้เราทำมา 20 กว่าปีแล้ว ก่อนที่จะมีเรื่อง Net Zero พอทั่วโลกมี mission Net Zero เราจึงตอบสนองได้ทันที และเพิ่มกิจกรรมที่เข้มข้นและครบวงจรมากขึ้น” คุณอรกร กล่าว
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้น TCM มีโครงการ Take Back ให้ลูกค้านำพรมเก่าและนำมาแยกชิ้นส่วน ก่อนนำไปย่อยสลาย หรือนำไปเป็นปุ๋ยชีวภาพจากเส้นใย wool หากเป็นเส้นใย PP ก็นำไปเป็นส่วนผสมของปูนซีเมนต์
Surreal design and Hand tufted technique
เทคนิคทอพรมด้วยมือพร้อมลูกเล่นหลากหลาย
Patina Collection: คอลเลกชันใหม่พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ไฮไลท์ภายในงานสถาปนิก’68 สำหรับ TCM ปีนี้เราจะตอกย้ำความเชี่ยวชาญงานพรมทอมือของ Royal Thai โดยเน้นเสนอพรมทอด้วยช่างฝีมือ เพิ่มลูกเล่นและเทคนิคต่างๆที่หลายหลายแปลกใหม่เสริมจินตนาการการออกแบบงานของลูกค้า และดีไซน์เนอร์ เช่น แบบที่เหนือจินตนาการ และนำตัวอย่างที่เปิดตัวทั่วโลก คือคอลเลกชั่น PATINA ที่เราปรับการดีไซน์ของพรมที่ใช้กับเครื่องบินส่วนตัว หรือเรือยอร์ช มาใช้กับงานตกแต่งโรงแรมหรือ Hall ใหญ่ๆได้อย่างสวยงามและสร้างความหรูหราสไตล์ Quiet Luxury ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสด้วย
พบกับผลิตภัณฑ์จาก TCM ที่บูธ F205 ภายในงานสถาปนิก’68 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 37 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
