เวลาดูแอนิเมชันหรือซีรีส์ เรามักเห็นฉากที่ตัวละครปฏิสัมพันธ์กับหลังคาอย่างอิสระ เป็นพื้นที่ที่ที่สามารถนั่ง นอนทอดตัวมองท้องฟ้า เหยียบปีนป่าย หรือกระโดดข้ามไปมา แต่ในชีวิตจริง ‘หลังคา’ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของอาคารที่ทำหน้าที่ปกป้องผู้ใช้งาน กลับเป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมเหนือระดับสายตาที่เราแทบไม่มีโอกาสสัมผัสอย่างใกล้ชิด
งานสถาปนิก’68 ครั้งนี้ VG ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นหลังคาไวนิลและอุปกรณ์รางน้ำฝนไวนิลชั้นนำในประเทศไทย ร่วมกับ ativich/studio จึงชวนคุณเปิดมุมมองใหม่ผ่าน Thematic Pavilion บนพื้นที่ 180 ตารางเมตรภายในฮอลล์ อิมแพ็ค ด้วยการนำวัสดุ ‘หลังคาไวนิล’ และ ‘ระแนงไวนิล’ มาเนรมิตในรูปแบบพื้นที่สถาปัตยกรรมสุดสร้างสรรค์ แปลกใหม่ เปิดโอกาสให้คุณได้มาร่วมสัมผัสและสนุกไปกับประสบการณ์ก้าวข้ามขีดจำกัดด้านการใช้งานที่เหนือขั้นจากการออกแบบ

ก่อนจะถึงวันงานที่ทุกคนสามารถร่วมสำรวจพื้นที่จริงด้วยตาตัวเอง เราชวนคุณมานั่งพูดคุยกับ คุณวิชญ์ – อติวิชญ์ กุลงามเนตร ผู้ก่อตั้ง ativich/studio ถึงเบื้องหลังการออกแบบผลงาน และแบ่งปันเรื่องราวแรงบันดาลใจพร้อมแนวคิดไปด้วยกัน
VG EXPERIENCE PAVILION
“สำหรับปีนี้ VG เน้นตัวชูโรงเป็นผลิตภัณฑ์หลังคา ซึ่งเป็นโจทย์ที่ค่อนข้างยากเพราะต้องเป็นการออกแบบหลังคาที่นำเสนอทั้งความสวย ดีไซน์ และ VG ตั้งใจว่าต้องเป็นหลังคาที่ติดตั้งถูกต้อง เราจึงนำทฤษฎีและองค์ประกอบพื้นฐานของงานออกแบบสถาปัตยกรรมมาใช้ นำเสนอดีไซน์ที่สะท้อนภาพความเป็นหลังคาสดใหม่ นอกกรอบ และสร้างมิติที่ให้มุมการรับรู้แปลกใหม่ แตกต่างไปจากเดิม แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงประสบการณ์การใช้งานที่คุ้นเคยควบคู่ไว้ในแห่งเดียวกัน” คุณวิชญ์เล่าถึงคอนเซ็ปต์และความท้าทายในการออกแบบ



ativich/studio จึงเริ่มต้นจากการศึกษาค้นคว้าข้อมูล ทั้งคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ลักษณะรูปทรงหลังคาที่หลากหลาย และนำกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) มาใช้พัฒนาการสร้างสรรค์ผลงานให้ครอบคลุม ตอบโจทย์ จนถ่ายทอดออกมาเป็นโครงสร้างเชิงสถาปัตยกรรมล้ำสมัย ในรูปแบบของหลังคาขนาดใหญ่ 2 หลังคร่อมทับบนพื้นที่ สร้างสเปซกึ่งปิดล้อมที่ใช้วัสดุหลังคาไวนิลและระแนงไวนิลคลุมโครงสร้าง

หลังคาขนาดใหญ่กำลังบอกอะไรเรา? เบื้องหลังแนวคิดการนำเสนอหลังคาขนาดใหญ่ของ ativich ไม่ได้สื่อเฉพาะความยิ่งใหญ่ทางกายภาพ แต่เป็นสัญลักษณ์สะท้อนวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีและความสามารถด้านการออกแบบของมนุษย์ที่ตอบสนองความต้องการผู้คนตามยุคสมัย กล่าวคือ จากจุดเริ่มต้นที่มนุษย์ต้องการเพียงที่อยู่อาศัยขนาดเล็กในฐานะปัจจัย 4 ต่อมาสถาปัตยกรรมค่อยๆ คลี่ขยายสู่การตอบสนองคติความเชื่อในระบบสังคม พัฒนาเป็นศาสนสถานแสดงพลังของพระผู้เป็นเจ้า กระทั่งปัจจุบันด้วยอิทธิพลของเศรษฐกิจโลกระบบทุนนิยม ส่งผลให้การออกแบบสถาปัตยกรรมมีโครงสร้างขนาดมหึมา (Mega structure) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ซับซ้อนหลากหลายขึ้น เกิดเป็นอาคารสาธารณะ โรงงานอุตสาหกรรม สนามบิน ฯลฯ สำหรับรองรับคนจำนวนมาก ความใหญ่ของอาคารจึงพ่วงมาพร้อมกับความใหญ่ของหลังคาและการสร้างสรรค์นวัตกรรมวัสดุที่ก้าวหน้าและมีประสิทธิภาพทัดเทียมกัน
ขณะเดียวกัน สเกลความใหญ่สะท้อนความเป็นทุนนิยมที่ให้ความรู้สึกห่างเหิน ถูกเติมเต็มความใกล้ชิดด้วยการนำแรงบันดาลใจจากของเล่นในวัยเด็กที่ทุกคนคุ้นเคยอย่าง Kaleidoscope หรือกล้องสลับลายมาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ โดยเปลี่ยนรูปแบบประสบการณ์ที่เคยรับรู้ผ่านทางสายตาเป็นการปฏิสัมพันธ์ผ่านทุกโสตประสาทในพื้นที่สถาปัตยกรรม เสมือนเราเข้าไปอยู่ภายในกล้องสลับสลายขนาดใหญ่
ทุกการเคลื่อนไหวของผู้เข้าชมจึงเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบสถาปัตยกรรมคล้ายการพลิกกล้องสลับลาย เทคนิคนี้สร้างสรรค์โดยการนำวัสดุที่มีความเงาสะท้อนภาพ ปิดพรางพื้นที่โครงสร้างด้านใน วิธีนี้ไม่เพียงสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่แต่ยังช่วยลบความรู้สึกของโครงสร้างที่หนาหนัก ให้เหลือเพียงความบางเบาของหลังคาได้อีกด้วย

อาคารหลังคา 2 หลัง ที่วางติดกัน แบ่งพื้นที่การใช้งานใต้หลังคาออกเป็น 3 โซน ได้แก่
- Forest of Mirror พื้นที่ Visual Immersive ที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์แปลกใหม่ในมิติที่แตกต่างภายใต้หลังคาที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Kaleidoscope
- Performance Stage พื้นที่เวทีกลางจาก VG คับคั่งทั้งกิจกรรมและการจัดแสดงมากมายสำหรับมอบความบันเทิงและความรู้ รวมทั้งเป็นเวทีแห่งโอกาสสำหรับนักออกแบบ Young Gen นำเสนอแนวคิดจากการประกวดออกแบบบ้านแห่งอนาคตไวนิลนำเทรนด์ ‘Vinyl Leads, You Design’
- Product Experience Zone พื้นที่แห่งการทดลอง พร้อมให้คุณสวมวิญญาณนักสำรวจ จับ สัมผัส และทดสอบคุณสมบัติผลิตภัณฑ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งจัดกิจกรรม workshop สอนการติดตั้งผลิตภัณฑ์จริง เพื่อให้คุณได้เปิดประสบการณ์ใหม่แบบจัดเต็ม

จุดเด่นที่น่าสนใจเมื่อมองจากด้านข้างพาวิลเลียนจะพบกับช่องว่างนำสายตารูปตัว V ใต้โลโก้ VG ที่ลอยอยู่ระหว่างอาคาร 2 หลัง ativich studio ใช้ประโยชน์ของพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างอาคาร ออกแบบให้อยู่ในรูปแบบของเนินบันไดที่มีฟังก์ชันใช้เดินสัญจรข้ามระหว่างอาคารควบคู่ไปกับการจัดแสดงผลิตภัณฑ์เด่น (Product Hero) ประจำวันบริเวณขั้นบนสุดของบันไดที่สามารถดึงดูดความสนใจและมองเห็นได้จากทุกมุม ไม่ว่าจะมองจากภายในหรือภายนอก
SENSE OF ROOF
ส่วนที่น่าประทับใจไม่แพ้กัน คือรายละเอียดของการเลือกจัดวางองค์ประกอบต่างๆ อย่างมีชั้นเชิงเพื่อให้เกิด ‘การรับรู้พื้นที่’ ที่สอดแทรกการบอกเล่าคุณสมบัติที่โดดเด่นของผลิตภัณฑ์ VG ไว้อย่างแนบเนียน ดังนี้


- Light & Cool
บอกเล่าความเบาผ่านการออกแบบพื้นที่ ‘The Forest of Mirror’ ที่พรางโครงสร้างหนาหนักและสะท้อนภาพลวงตา เพื่อชูลักษณะของแผ่นหลังคาไวนิลและระแนงไวนิลที่ขึงเบา ลอยขึ้นเด่นชัด
“เราตั้งใจพูดถึงหลังคาแต่คนอาจจะไปมองผนัง การ distract มันง่ายมาก เราจึงเริ่มนำหลักการออกแบบประสบการณ์มาใช้ นำเทคนิคสร้างมิติลวงตาที่ได้แรงบันดาลใจจาก Kaleidoscope เข้ามาเล่น มาซ่อนโครงสร้างให้ซับซ้อนน้อย ปิดทุกอย่างเหลือเพียงแผ่นหลังคาเบาๆ และเป็นการดึงดูดให้คนมาเล่นสนุกกับพื้นที่
และเมื่อคุณได้เข้าไปอยู่ข้างในนั้น เราอยากให้สัมผัสประสบการณ์ความเย็นใต้หลังคา แม้สปอตไลต์จะสาดส่องอาคารจากข้างนอก แต่คุณสมบัติระบายความร้อนกลับทำให้พื้นที่ด้านในเย็นสบาย”
- Scalable
ขนาดที่ปรับแต่งได้ พร้อมรองรับทุกการใช้งานตั้งแต่อาคารพักอาศัยจนถึง Megastructure แสดงให้เห็นผ่านการติดตั้งผลิตภัณฑ์ในขนาดเต็มแผ่นยาวพิเศษ สามารถตอบรับการใช้โครงสร้างช่วงกว้างได้เป็นอย่างดี
“โครงสร้างเรียบง่ายแต่ทุกอย่างเป็นเฟรมใหญ่เพราะเราต้องการบอกว่า VG ทำหลังคารีดยาวได้ถึง 20-30 เมตร ฉะนั้นหลังคานี้จึงมีความสูงใหญ่มาก แผ่นหลังคาคือยาวสุด 10 เมตรทุกแผ่น เพื่อให้เห็นว่าคุณสามารถใช้หลังคานี้ได้โดยไร้รอยต่อ เหมาะกับทุกการใช้งานและพร้อมรองรับโครงสร้างช่วงกว้าง”
- Aesthetic & Durability
การนำเสนอความสวยงามของผลิตภัณฑ์จาก VG แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ แผ่นหลังคาไวนิลพรีเมียม 3 รุ่น คือ Winter Roof, Snow Roof pro และ Glacier Roof ที่โชว์แพทเทิร์นหลังคาที่แตกต่าง แสดงระบบติดตั้งที่เรียบร้อย สวยงาม สะท้อนวามคงทนและความพร้อมในการปกป้องทุกพื้นที่อาศัยอย่างแข็งแกร่ง มีสไตล์ และนวัตกรรมใหม่ที่เปิดตัวในงานคือระแนงไวนิล Vinyl Slat Vento ที่มีความสวยงาม ห่อโครงสร้างหลังคาทั้งสองด้าน สะท้อนคุณสมบัติความโปร่ง ทำให้ผู้ชมสามารถเห็นโครงสร้างที่อยู่ภายในได้
BEYOND LIMITS, BE SUSTAINABILITY
จากความประทับใจในวิสัยทัศน์ของ VG ที่มุ่งให้คุณค่ากับการออกแบบนวัตกรรมที่เป็นมากกว่าหลังคา ความพยายามก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยการคิดค้นผลิตภัณฑ์แห่งอนาคต พร้อมเป็นทางเลือกใหม่ รองรับแนวคิดการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืน เลือกใช้วัตถุดิบจากพลาสติกที่เป็นเคมีภัณฑ์สมัยใหม่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ออกแบบได้นำความโดดเด่นของคุณสมบัติทั้งหมดในผลิตภัณฑ์หลังคาไวนิลและระแนงไวนิลที่เบา ทนทาน สามารถใช้งานพาดบนโครงสร้างช่วงกว้าง มีความสวยงาม คงทนของสี นำมาต่อยอดเป็นพื้นที่เชิงสถาปัตยกรรมที่ชวนคุณมา จับ เล่น และเรียนรู้ได้อย่างใกล้ชิด
เตรียมตัวให้พร้อม มาปลดล็อกจินตนาการและสัมผัสศักยภาพของวัสดุในมิติที่แตกต่างด้วยตัวคุณเอง ภายในงานสถาปนิก’ 68 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 37 ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 4 พฤษภาคม 2568 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สำหรับใครที่ยังลังเล ท้ายนี้เรานำคำชวนพร้อมเหตุผลที่บอกว่าทำไมคุณจึงไม่ควรพลาดงานนี้ ด้วยข้อความที่ ativich/studio ฝากส่งมาถึงคุณ

“สถาปนิกต้องเป็นผู้นำเทรนด์ ไม่ใช่ผู้ตาม เราจะสร้างสิ่งใหม่ที่คนไม่เคยสัมผัสได้อย่างไร ถ้าเราเองไม่เคยมีประสบการณ์ ซึ่งจะมีโอกาสไหนที่ในพื้นที่แห่งเดียวจะรวบรวมทั้งความรู้ วัสดุก่อสร้าง รวมทั้งของทุกอย่างที่เกี่ยวกับการออกแบบมาไว้แบบนี้”

“สำหรับบูธ VG เราเป็นทั้ง Thematic pavilion และ Experience pavilion ที่อยากให้ทุกคนไม่ได้มาแค่เห็นความก้าวหน้าของวัสดุหรือผลิตภัณฑ์หลังคา แต่สิ่งที่ ativich กับ VG ตั้งใจคือการสร้างพื้นที่มิติใหม่ของการจัดแสดงสินค้า ที่ทุกคนสามารถเติมเต็มประสบการณ์ร่วมกัน มา Play มา Join และมา Learn กับคุณสมบัติของวัสดุที่ VG ผลิตให้ตอบโจทย์กับชีวิตเรามากขึ้น”