นิยามคำว่า “บ้าน” ซึ่งหมายถึง สิ่งปลูกสร้างสำหรับพักอาศัย เป็นสถานที่ที่ให้ความอบอุ่นใจ ความรู้สึกที่สบายใจเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก ความสัมพันธ์ในครอบครัว ซึ่งขั้นตอนในการก่อสร้างหากเรียงตามลำดับ ตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง ประเมินภาพรวมของงาน ไปจนถึงการส่งมอบให้กับผู้ที่เป็นเจ้าของบ้าน ถือเป็นหน้าที่สำคัญของบริษัทรับสร้างบ้านเป็นอย่างมาก ในการส่งต่อบ้านที่ได้คุณภาพ ดีไซน์สวยงาม พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ของผู้อยู่อาศัย
คนเลือกบ้าน
การเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน มักต่างกันไปตามผลลัพท์ที่เจ้าของบ้านต้องการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบ งบประมาณในการจัดสร้าง หรือแม้แต่ประสบการณ์ในการสร้างสรรค์ผลงาน ล้วนแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่เจ้าของบ้านเลือกใช้ในการตัดสินใจเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน
คุณวรวุฒิ กาญจนกูล ประธานบริหาร บริษัท ดับบลิว เฮ้าส์ จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปี กล่าวถึงแนวคิดในการออกแบบ-ก่อสร้างไว้ว่า “เราเน้นสร้างสรรค์การออกแบบบ้านที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของผู้อยู่อาศัย ผ่านการสร้างบ้านที่มีคุณภาพ ส่งมอบงานตรงเวลา โดยมุ่งเน้นคุณภาพ ความสวยงามและความแข็งแรงพร้อมกับการส่งมอบบ้านที่ตรงเวลา โดยสถาปนิกและวิศวกรที่มากด้วยประสบการณ์”
บ้านเลือกคน
แม้ในด้านของการออกแบบจะต้องคำนึงถึงความต้องการของลูกค้า แต่อีกทิศทางหนึ่งบริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ ยังคงเอกลักษณ์และจุดยืนเป็นของตนเอง “โดย ดับบลิว เฮ้าส์ จำกัด เป็นอีกหนึ่งบริษัทรับออกแบบบ้านที่เน้นดีไซน์หรูหรา ทันสมัย โดยกลุ่มลูกค้าจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ
- ผู้บริหารธุรกิจ , นักลงทุน , ผู้มีความต้องการสร้างบ้าน ด้วยแนวคิดบ้านพักอาศัยที่มีฟังก์ชั่น-ห้อง ตอบโจทย์วิถีชีวิตของตนเองและครอบครัว
- บุคคลที่ความสนใจด้านศิลปะและการออกแบบ ที่มีความต้องการให้บ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย โดยต้องเป็นสถานที่สะท้อนความงามด้านสถาปัตยกรรมด้วย
- บุคคลที่ต้องการบ้านที่มีความทันสมัยและรูปแบบที่สวยงาม เนื่องจากบริษัท ดับบลิวเฮ้าส์ โดดเด่นในด้านการออกแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น จึงตอบโจทย์บุคคลที่มีต้องการมีบ้านที่ทันสมัย, ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง, และองค์ประกอบที่สวยงาม”
การปรับตัวและแนวทางการเติบโตในรูปแบบของ ดับบลิวเฮ้าส์
นอกเหนือจากประเด็นของ “คนเลือกบ้าน” และ “บ้านเลือกคน” อีกประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ คือการเข้ามาของวัสดุก่อสร้างที่นำเข้าจากต่างประเทศยุคปัจจุบันของโลกการค้าเสรี มีผลอย่างไรบ้างกับบริษัทด้านการออกแบบ ซึ่งคุณวรวุฒิได้ให้ความเห็นว่า “การเข้าสู่ตลาดของสินค้าจากต่างประเทศ มีผลในด้านการตลาด, การลดต้นทุน, และการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เนื่องจากวัสดุบางชนิดที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศมีราคาทีผันผวนสูงขึ้น ตามสภาวะทางเศรษฐกิจโลก จึงทำให้ส่งผลต่อราคาของบ้านที่ปรับตัวขึ้นในทุก ๆ ปี”
ความผันผวนของราคาบ้าน อันเนื่องมาจากการนำเข้าวัสดุจากต่างประเทศเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่บริษัทรับออกแบบบ้านต้องเผชิญ ทั้งนี้หากไม่มีแนวทางการปรับตัวที่ดีอาจมีผลต่อการเติบโตทางธุรกิจได้ “แนวทางในการปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจเติบโตและเพิ่มประสิทธภาพให้บริษัท คือ การมองถึงลูกค้าเป็นหลัก เราสร้างบ้านให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมไปถึงการให้บริการที่ครบวงวร เช่น การให้คำแนะนำ การออกแบบ ก่อสร้าง และบริการหลังการขายที่ดีจนเกิดการบอกต่อ ถือเป็นการสร้างฐานลูกค้าที่มั่นคง ทั้งนี้ยังมีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้ในการออกแบบ-ก่อสร้างอีกด้วย และประการสุดท้ายคือการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ที่สามารถส่งเสริมและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขยายฐานลูกค้า”
แนวคิดความยั่งยืนสู่บ้านส่งเสริมสุขภาพจิต
เมื่อการออกแบบบ้านเป็นมากกว่าการสร้างที่อยู่อาศัย โดยต้องสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่มาพร้อมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับหลักแนวคิดความยั่งยืน หรือ Sustainability ที่หลายบริษัทในวงการออกแบบ-ก่อสร้างนิยมนำมาปรับใช้ในปัจจุบัน
“ทางบริษัท ดับบลิวเฮ้าส์ ให้ความสำคัญของแนวคิดความยั่งยืน หรือ Sustainability ในการพัฒนาทั้งในรูปแบบของการออกแบบ วัสดุที่ใช้ และวิธีการก่อสร้าง โดยทางบริษัทได้ทำการออกแบบบ้าน “W House Go Green” ที่คำนึงถึงการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้ประสิทธิภาพได้สูงสุดในด้านพลังงาน เช่น การใช้วิธีการเปิดรับแสงแดด โดยการออกแบบระบบหลังคาที่สามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) หรือ การออกแบบบ้านที่มี Green Space ในลานหรือพื้นที่ว่างของบ้าน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้เข้าถึงธรรมชาติ ทั้งยังสร้างสมดุลในการใช้พื้นที่และส่งเสริมสุขภาพจิตของผู้อยู่อาศัย”
จุดเริ่มต้นสู่เส้นทางที่คาดหวังในงานสถาปนิก’67
นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสำหรับการร่วมงานสถาปนิกปีแรกของ บริษัท ดับบลิวเฮ้าส์ จำกัด หลังได้สัมผัสงานสถาปนิกติดต่อกันหลายปีในฐานะผู้เข้าชม โดยการร่วมงานในครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอบริษัทให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น “บริษัทเล็งเห็นว่างานสถาปนิก’67 นี้ จะเป็นโอกาสอันดีที่ทางบริษัทจะได้ร่วมนำเสนอแบบบ้านในปี 2024 ผ่านแนวคิดจากทางทีมสถาปนิกของบริษัท พร้อมทั้งรับคำแนะนำ คำติชมจากลูกค้า รวมไปถึงโอกาสในการทำความรู้จักบริษัทและผู้นำในวงการออกแบบ-ก่อสร้าง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการสร้างเครือข่ายเพื่อพัฒนากับคนในอุตสาหกรรมการก่อสร้างให้เจริญยิ่งขึ้นไปในอนาคต”
ร่วมชมแบบบ้านที่แสดงออกถึงความงดงามด้านสถาปัตยกรรม และตอบโจทย์ผู้ใช้งานจริง ของ บริษัท ดับบลิว เฮ้าส์ จำกัด ได้ที่บูธหมายเลข D108 ในงานสถาปนิก’67 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 36 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี