สร้างรูปลักษณ์และฟังก์ชันที่โดดเด่นให้กับพื้นที่ ด้วยระบบประตูหน้าต่างจาก GLASTEN ที่สถาปนิก’67

     “GLASTEN: The Modern Luxury Windows and Doors ประตูหน้าต่างที่มีรูปลักษณ์สวยงามหรูหราเฉพาะตัว แฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยตอบโจทย์ประตูหน้าต่างที่ทันสมัย แข็งแรง ทนทาน และใช้งานได้ดี”

     คำนิยามสะท้อนตัวตนของแบรนด์ประตูหน้าต่าง GLASTEN ที่ คุณพิสิฐ จิรภากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กลาสเท่น (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ขมวดมาแบบกระชับชวนให้เราได้รู้จักกับแบรนด์ GLASTEN ในบทสนทนาถาม-ตอบต่อจากนี้

โดดเด่นด้วยระบบ Thermal Break System

     จากการเข้าร่วมงานสถาปนิกมาอย่างต่อเนื่องในตลอดทุก ๆ ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ประตูหน้าต่าง GLASTEN เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในกลุ่มลูกค้าและกลุ่มผู้ออกแบบ โดยคุณพิสิฐ ได้เผยกับเราถึงจุดเด่นของ GLASTEN คือ ระบบ Thermal Break System

     แล้วระบบ Thermal Break System ที่ว่านี้คืออะไร คุณพิสิฐได้อธิบายให้เราได้เห็นภาพว่า “ระบบ Thermal Break System เป็นระบบที่ทำหน้าที่แยกส่วนเส้นอะลูมิเนียมที่สัมผัสกับชั้นบรรยากาศภายนอกและภายในออกจากกันโดยตรง เพื่อป้องกันการถ่ายเทความร้อนและเสียงจากภายนอกบ้านสู่ภายในบ้าน”

     นอกจากนั้น ทางแบรนด์ยังโดดเด่นด้วยการเลือกใช้ระบบเทอร์โมเบรค จาก TECHNOFORM ประเทศเยอรมนี ที่ก่อนหน้านี้ยังไม่เป็นที่รู้จักและแพร่หลายในประเทศไทยมากนัก แต่ปัจจุบันระบบดังกล่าวเริ่มเป็นที่รู้จัก รับรู้ และเข้าใจในการทำงานมากขึ้น

     จากที่กล่าวไปทั้งในด้านคุณสมบัติและการใช้งานของประตูหน้าต่างระบบยุโรปและระบบเทอร์โมเบรค ทำให้ GLASTEN เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักออกแบบและเจ้าของบ้าน ทั้งในแง่ความแข็งแรงทนทานและแง่ของคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยในการลดความร้อนและเสียงได้เป็นอย่างดี

มอบประสบการณ์อันคุ้มค่าให้กับ ‘บ้านหลังสุดท้าย’

สืบสาวต่อจากการขยายกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น เราจึงชักนำไปสู่คำถามที่ว่า แล้วกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ GLASTEN คือกลุ่มใด

     “ณ ปัจจุบันอาจพูดได้ว่ากลุ่มลูกค้าของเรา คือ เจ้าของบ้านและสถาปนิกที่ต้องการสร้างบ้าน และต้องการประตูหน้าต่างสำหรับ ‘บ้านหลังสุดท้าย’ เพราะเขาเหล่านั้นผ่านการรับรู้ ประสบการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการใช้ประตูหน้าต่างมาอย่างหลากหลาย และเมื่อต้องการจะสร้างบ้านหลังที่ดี และคุ้มค่าที่สุด ประตูหน้าต่างของเราคือคำตอบ”

     โดยกลุ่มลูกค้าที่ว่ามักจะคำนึงถึงคุณภาพของประตูหน้าต่าง ความแข็งแรงทนทาน ความสวยงาม เทคโนโลยียุคใหม่สำหรับประตูหน้าต่าง และที่สำคัญคือบริการหลังการขาย

Thermal Break System ระบบที่ครอบคลุมถึงเรื่องการประหยัดพลังงาน

     การเชื่อมโยงมาถึงประเด็น ‘ความยั่งยืน’ ที่นักอ่านหลายท่านคงอยากทราบแล้วว่าประตูหน้าต่างนั้นสามารถเชื่อมต่อกับประเด็นนี้อย่างไร ฉะนั้นนับจากนี้เราจึงได้กลั่นกรองเป็นคำถามในประเด็นที่เราพากันสนใจใคร่รู้ขึ้นมา และในอีกขณะหนึ่งก็เพิ่งนึกถึงระบบเทอร์โมเบรค จาก TECHNOFORM ประเทศเยอรมนี ที่เราคาดว่าคงมีส่วนส่งเสริมหลักความยั่งยืนไม่มากก็น้อย

     “จากจุดเด่นของประตูหน้าต่าง GLASTEN ที่มีระบบเทอร์โมเบรค จาก TECHNOFORM ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นระบบที่ออกแบบในทวีปยุโรปและถูกใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก ระบบนี้จะช่วยแบ่งแยกชั้นบรรยากาศภายนอกบ้านและภายในบ้านออกจากกันที่เส้นอะลูมิเนียมโดยตรง

     ทำให้ประตูหน้าต่างระบบนี้มีส่วนช่วยในการลดการใช้พลังงาน โดยเฉพาะการทำงานของเครื่องปรับอากาศจากภายในบ้านที่ไม่ต้องทำความเย็นเพื่อต้านกับความร้อนจากภายนอกโดยตรง ในขณะที่หากเป็นอะลูมิเนียมทั่วไปมักจะมีการถ่ายเทความร้อนจากภายนอกสู่ภายในได้ตลอดเวลา

     ประตูหน้าต่าง GLASTEN จึงเข้ามาผลักดันหลักอาคารเขียว (Green Building) ยุคใหม่ที่ช่วยลดโลกร้อนและประหยัดพลังงานสำหรับบ้านพักอาศัยโดยตรง ซึ่งในปัจจุบันนี้ระบบเทอร์โมเบรคได้ถูกบรรจุให้เป็นมาตรฐานของประตูหน้าต่าง ตามกฎหมายของประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งสิงคโปร์ก็กำลังจะบรรจุระบบนี้ให้เป็นระบบมาตรฐานที่ใช้ภายในประเทศอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้”

มาตรฐานระดับสากล ในราคาที่เข้าถึงง่าย

     “GLASTEN เติบโตอย่างน้อย 15 เปอร์เซ็นต์ ในทุกปีอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงโควิดที่ผ่านมาก็ยังเติบโต เพราะปัจจุบันผู้บริโภคตอบรับกับสินค้าคุณภาพสูงมากขึ้น ซึ่งสินค้าของเราตอบโจทย์ในกลุ่มนี้โดยตรง ฉะนั้น การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้าและความทนทานของสินค้าเป็นสำคัญ”

     ทว่าในขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ของ GLASTEN นั้นมีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับประตูหน้าต่างแบรนด์อื่น ๆ จากยุโรป ดังนั้น GLASTEN จึงเน้นในเรื่องมาตรฐานของสินค้าเพื่อพัฒนาไปสู่ระดับสากล

การแข่งขันที่นำมาซึ่งการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง

     จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันมีแบรนด์ประตูหน้าต่างจากต่างประเทศเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งจากจีน ญี่ปุ่น ยุโรป และอื่น ๆ ที่มีคุณภาพในหลายระดับควบคู่มากับราคาที่แตกต่าง อย่างไรก็ดี การหลั่งไหลเข้ามาของสินค้าดังกล่าว กลับเป็นผลดีให้ตลาดประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมของไทยมีการพัฒนามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการแข่งขันกันทั้งแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศ

     เมื่อมีการแข่งขันกันเกิดขึ้น การพัฒนาระบบประตูหน้าต่างให้เหมาะสมกับเงื่อนไขทางสภาพภูมิอากาศของประเทศนั้น ๆ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สินค้าแบรนด์นั้น ๆ ได้รับความนิยมในท้องตลาด

     “ประตูหน้าต่างที่ดีไม่ใช่เพียงเพราะมีระบบประตูหน้าต่างที่ดีเท่านั้น ระบบที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับภูมิอากาศประเทศไทยก็สำคัญไม่แพ้กัน และยังประกอบไปด้วยความรู้ความเข้าใจในการติดตั้งที่ถูกวิธี บริการหลังการขายที่ต่อเนื่อง ปัจจัยเหล่านี้ประกอบกันจะนำไปสู่ระบบประตูหน้าต่างที่ดี”

     นอกจากนั้น ทางแบรนด์ยังโฟกัสไปถึงการให้บริการลูกค้าที่จะได้รับการดูแลตั้งแต่การติดตั้ง บริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่ามีคนคอยดูแลประตูหน้าต่างตลอดอายุการใช้งานที่ยาวนาน

     รวมไปถึงประตูหน้าต่างทุกบานที่ผลิตจะได้รับการควบคุมคุณภาพที่โรงงาน ประกอบด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยจากยุโรป เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในสินค้าประตูหน้าต่างของ GLASTEN ในทุก ๆ บาน

GLASTEN x SIEGENIA นวัตกรรมไฮไลท์ที่อยากให้มาสัมผัสในงานสถาปนิก’67

     สถาปนิก’67 ก็คงจะเป็นอะไรที่พิเศษสุด ๆ สำหรับการขนนวัตกรรมของ GLASTEN มาโชว์ภายในงาน โดยเฉพาะในปีนี้ที่ทางแบรนด์ได้นำเสนอประตูรุ่นใหม่ซึ่งพัฒนาร่วมกับบริษัทฮาร์ดแวร์จากเยอรมนีอย่าง SIEGENIA (ซิกิเนี่ย) บริษัทประตูหน้าต่างที่ก่อตั้งมานานกว่า 100 ปี

     โดยทางแบรนด์ได้ออกระบบใหม่ คือ Slide & Seal เป็นระบบประตูบานเลื่อน Slide ที่มีซิลยางรอบบาน (การทำงานคล้ายบานเลื่อนรถตู้) ที่สามารถป้องกันเสียงและความร้อนได้ดีเทียบเท่ากับระบบบานเปิด ซึ่ง SIEGENIA ก็ได้พัฒนาระบบดังกล่าวมาหลายปีจนได้รุ่น Generation ที่ 3 ที่สมบูรณ์

     ทว่าที่พิเศษยิ่งกว่านั้น คือ สินค้ารุ่นนี้จะเป็นรุ่นแรกที่พัฒนาติดตั้งในประตูระบบอะลูมิเนียมเทอร์โมเบรค โดย GLASTEN ได้เป็นพาร์ทเนอร์ในประเทศไทยที่ร่วมพัฒนาเพื่อทำระบบประตูบานเลื่อนรุ่นนี้ ภายใต้ชื่อรุ่นรหัส GP120 และแน่นอนว่าเราจะได้สัมผัสนวัตกรรมดังกล่าวที่บูธ GLASTEN ในงานสถาปนิก’67 เร็ว ๆ นี้

     “งานสถาปนิกทุกปีที่ผ่านมานับว่าเป็นเวทีที่เหมาะกับการจัดแสดงนวัตกรรมอย่างแท้จริง เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในงานครั้งนี้ และคาดหวังว่าจะมีการยกระดับงานสถาปนิกให้ก้าวไปสู่งานแสดงสินค้าระดับเอเชีย ไปสู่ระดับภูมิภาคของโลกได้ในที่สุด”

     พบกับ GLASTEN: The Modern Luxury Windows and Doors ที่บูธหมายเลข D102 ในงานสถาปนิก’67 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 36 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี