เสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้สว่างไสวด้วยผลิตภัณฑ์แสงสว่างแบรนด์ L&E ที่มีหัวใจหลักเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันและส่งเสริมคุณภาพในการดำรงชีวิตของผู้ใช้งาน ประกอบกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีในปัจจุบัน
ทำให้ L&E ปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการผู้ใช้งานและ ก้าวทันตามเทรนด์ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้สว่างไสวด้วยผลิตภัณฑ์แสงสว่างแบรนด์ L&E ที่มีหัวใจหลักเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวันและส่งเสริมคุณภาพในการดำรงชีวิตของผู้ใช้งาน ประกอบกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้ L&E ปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการผู้ใช้งานและ ก้าวทันตามเทรนด์
More than Light I มากกว่าแสงสว่าง
ด้วยสโลแกน ‘ More than Light ’ และ ‘ Total Lighting Solution Provider ’ ซึ่งบ่งบอกถึงความตั้งใจของแบรนด์ L&E ได้ชัดเจนว่าไม่ได้เป็นเพียงผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แสงสว่างเพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมไปถึงการให้บริการออกแบบแสงสว่าง เพราะ L&E มีทีมงานด้านการออกแบบโดยเฉพาะด้วย Lighting Designer มืออาชีพที่พร้อมให้คำแนะนำเพื่อไขข้อสงสัยด้านระบบไฟฟ้า ให้แสงสว่างอย่างถูกต้องและสวยงาม จนถึงผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างที่หลากหลายครบวงจรแบบ One Stop Service ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานกว่า 30 ปี ประกอบกับปัจจัยด้านคุณภาพสินค้าและบริการก่อนและหลังการขายทำให้ได้รับความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ส่วนใหญ่เป็นทั้งโครงการภาครัฐและเอกชน บ้านอยู่อาศัย หรืออาคารพาณิชย์ต่าง ๆ แต่ L&E เล็งเห็นถึงความสำคัญของกลุ่ม End-User แบรนด์ L&E จึงได้เปิดโชว์รูมแสดงผลิตภัณฑ์เพื่อให้กลุ่ม End-User มาทดลองใช้งานโดยเฉพาะ
“เรามีโชว์รูมอยู่ที่ถนนรัชดาและถนนราชพฤกษ์ โดยลักษณะเป็นศูนย์รวมของแสงสว่าง เรียกว่า Lighting Solution Center ที่ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การขายเพียงอย่างเดียว แต่มีห้องตัวอย่างเพื่อให้ลูกค้าเห็นแสงสว่างจริง ๆ รวมถึงมีบริการออกแบบแสงสว่าง โดย Lighting Designer ให้ด้วยครับ” คุณศิริวัฒน์ หวังสุข พูดถึงโชว์รูมที่ นอกจากจะเป็นสถานที่ที่ให้ลูกค้ามาสัมผัสประสบการณ์จริง และยังเป็นแหล่งให้ความรู้เรื่องแสงสว่างด้วย
พัฒนา Solution มอบทางเลือกให้ผู้ใช้งาน
แผนการเติบโตของ L&E อ้างอิงตามทิศทางของวงการแสงสว่างในปัจจุบันซึ่งแตกต่างไปจากอดีต กล่าวคือ หนึ่งผลิตภัณฑ์ต้องมีมากกว่า 1 ฟังก์ชันการใช้งาน ทำให้แบรนด์พัฒนาต่อมาจนกลายเป็นบริการแสงสว่างด้านสุขภาพ, แสงสว่างเพื่อผู้สูงอายุ, แสงสว่างที่ประยุกต์ใช้ในการปลูกพืช , Smart Lighting เพื่อตอบสนองผู้ใช้งานยุคใหม่ และจากวิกฤตการณ์การระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา L&E ได้ขยายธุรกิจเพิ่มคือ Entertainment Tech ด้วยการนำเอาประสบการณ์เกี่ยวกับ Entertainment Lighting เข้าไปมีส่วนใน การจัดอีเวนต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานมหรสพ งานคอนเสิร์ต หรือสตูดิโอที่ใช้เทคโนโลยี XR สำหรับการประชุม ถ่ายทำภาพยนตร์ หรือละคร ภายใต้ชื่อ L&E Beyond ทำให้ L&E ได้รับความเชื่อมั่นในศักยภาพว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมาจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ลูกค้ายังคงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ถึงแม้จะมีการเข้ามาของตลาดต่างประเทศมากขึ้นก็ตาม
Sustainability for Living
บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E มุ่งมั่นที่จะดำเนินงานและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนแก่ธุรกิจ ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดีตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย สังคม และสิ่งแวดล้อม บริษัทมีความเชื่อมั่นว่า การดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืนเป็นรากฐานสำคัญ ที่จะช่วยเสริมสร้างให้องค์กรเติบโตได้อย่างมั่นคง ซึ่งความตั้งใจดังกล่าวนี้จะช่วยส่งเสริมให้การดำเนินงานมุ่งสู่ความยั่งยืน ตระหนักถึงความสำคัญของ Sustainability เพื่อสนับสนุนและรักษาสิ่งแวดล้อม การเข้าร่วมงานสถาปนิกเป็นการเชื่อมต่อระหว่างแบรนด์กับกลุ่มเป้าหมาย และสถาปนิก ดีไซเนอร์ หรือวิศวกร เพื่อนำเอาข้อมูลไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานและเพื่อนำประสบการณ์ที่ได้รับจากการร่วมงานสถาปนิกนี้ มาวางแผนการปฏิบัติงาน ซึ่งจะเป็นแนวทางในการพัฒนามาตรการเพื่อต่อยอดความก้าวหน้าตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
Lighting Experience สัมผัสแสงสว่างได้ที่งานสถาปนิก’67
L&E กลับมาพร้อมคอนเซปต์ Lighting Experience ที่มีความพิเศษด้วยพื้นที่ทดลองใช้สินค้า เพื่อให้ผู้เข้าชมงานทดลองใช้งานได้จริง เพราะแสงสว่างเป็นสิ่งที่มองเห็นด้วยตาตนเองเท่านั้น นอกจากนี้ภายในบูธนั้นแบ่งโซนต่าง ๆ ตามประเภทผลิตภัณฑ์ และแน่นอนว่า L&E ขนผลิตภัณฑ์มาหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการทั้งภายในและนอกอาคาร และมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไฮไลท์มากมายเป็นครั้งแรก
สัมผัสแสงสว่างและเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยด้วยตัวเอง ได้ที่บูธ L&E หมายเลข L312 ที่งานสถาปนิก’67 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 36 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี