TOA เชื่อมั่นในคุณภาพ พร้อมนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ ครองใจผู้ใช้งาน การันตีด้วย TOA Green Certified ที่งานสถาปนิก’67

ผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร และเคมีภัณฑ์ก่อสร้างซึ่งถูกมองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ทีมีสารเคมีที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้แบรนด์สีทาอาคาร และเคมีภัณฑ์ก่อสร้างรายใหญ่อย่าง TOA พลิกโฉมวงการให้สามารถอยู่คู่กับผู้คนได้อย่างปลอดภัย โดย TOA ตั้งใจสื่อสารกับผู้คนในงานสถาปนิกผ่านทั้งผลิตภัณฑ์ แบรนด์ และคอนเซปต์บูธ อีกทั้ง TOA เองได้ผลักดันผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมความยั่งยืน และรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อก้าวสู่ Net Zero

TOA นิยามตัวตนไว้ว่าเป็นแบรนด์ที่คอยดูแลรักษา และปรับปรุงฟื้นฟูอาคารบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างให้สมบูรณ์แบบมากที่สุดอยู่เสมอ ซึ่งภายในงานสถาปนิก’67 เตรียมพบกับคอนเซปต์หลักของ TOA ที่แฝงนัยยะและสอดแทรกตัวตนของแบรนด์ไว้อย่างโดดเด่น ถ่ายทอดผ่านคุณวราธร เจนจรัสสกุล ผู้อำนวยการสายงานการตลาด บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

 

เผยภาพลักษณ์ใหม่ที่งานสถาปนิก’67

     จากความสำเร็จตลอด 60 ปีที่ผ่านมา ทำให้ TOA มองไกลไปกว่านั้นถึงภาพอนาคต 60 ปีข้างหน้าของแบรนด์ ในแง่มุมมองทางธุรกิจที่มีภาพจำว่าผลิตภัณฑ์สี และเคมีภัณฑ์ก่อสร้างมีผลกระทบต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม ซึ่ง TOA ตั้งเป้าหมายว่าจะเปลี่ยนภาพลักษณ์นั้นเพื่อก้าวเข้าสู่ Net Zero โดยปฎิเสธไม่ได้ว่า TOA เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์สี และเคมีภัณฑ์ก่อสร้างที่มีทั่วทุกร้านค้าวัสดุก่อสร้าง นอกเหนือจากการดูแลอาคาร TOA ยังต้องการส่งมอบแรงบันดาลใจให้ผู้คนที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตด้วยการหันกลับมาปรับปรุงดูแลอาคารบ้านเรือน ที่เป็นการสะท้อนถึงตัวตนของผู้อยู่อาศัย

“สิ่งที่ต้องการจะสื่อคือ เราควรเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดีกว่าเดิม เพื่อสังคมที่น่าอยู่กว่าเดิม ผ่านการ REPAINT” คุณวราธรอธิบายถึงนัยยะของ TOA ซึ่งต้องการถ่ายทอดผ่านการดูแลปรับปรุงบ้าน หรืออาคารที่พัก”

     เมื่อกล่าวถึงกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มคนที่มีบ้าน หรืออาคารที่พักอาศัย นับเป็นกลุ่มหลักที่ TOA ต้องการอยากสื่อสารด้วย ต่างจากในอดีตที่แบรนด์ผลิตภัณฑ์มุ่งเน้นสื่อสารผ่านช่าง หรือผู้รับเหมา แต่เมื่อโลกนั้นสื่อสารถึงกันหมดด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน อำนาจการตัดสินใจถูกถ่ายเทไปยัง End-User มากขึ้น เช่นเดียวกับที่ TOA ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ก้าวทันโลก

ผลิตภัณฑ์สีสนับสนุนความยั่งยืน

     ในอดีต TOA ได้มีการนำนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการผลิตสีที่ตอบโจทย์ทุก Solution การใช้งาน แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เทรนด์ความยั่งยืนเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น อย่างที่ทราบกันว่าผลิตภัณฑ์สีเป็นสินค้าที่ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าอันตราย ทำให้ TOA เปิดตัวผลิตภัณฑ์สีปราศจากสารปรอทเป็นรายแรก จนมาถึงนวัตกรรมที่ทำให้การนำพืชมาเป็นองค์ประกอบหลักของการผลิตผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้รับการยอมรับจากสถาบันในอเมริกา ก่อนที่ TOA จะตอกย้ำความมั่นใจให้ผู้ใช้งานด้วยเครื่องหมาย TOA Green Certified เพื่อเป็นเครื่องหมายการันตีว่าสินค้าของ TOA เป็นสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งส่งผลให้เมื่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer) ทราบว่าแบรนด์มีผลิตภัณฑ์สีที่สนับสนุนความยั่งยืน ก็เป็นอีกเหตุผลที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ TOA ผสานเข้ากับแนวคิดของ TOA ที่ต้องการเติบโตไปพร้อมกับเทรนด์โลก ทำให้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อก้าวทันเทรนด์ และตอบสนองความต้องการผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเสมอ เช่น การพัฒนาสินค้าที่ไม่ทิ้ง Carbon Footprint เอาไว้ เพื่อเข้าสู่สังคม Net Zero ในที่สุด ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มเป้าหมายที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนความยั่งยืน

“อย่างที่กล่าวไว้ว่า เราต้องการสื่อสารกับคนมีบ้าน และกลุ่มคนที่ต้องสัมผัส อยู่กับสีมากที่สุด นั่นคือเจ้าของบ้าน การที่สีปลอดสารพิษ และกลิ่นที่อ่อนลงเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ TOA ให้ความสำคัญ” คุณวราธรกล่าวถึงสิ่งสำคัญที่ TOA ตั้งเอาไว้อันดับหนึ่ง เรียกได้ว่าส่งเสริมเทรนด์ความยั่งยืน และคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัย

อัปเดตเทรนด์ และเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย

     ในประเด็นของเทรนด์ใหม่ ๆ ในวงการสถาปัตยกรรม คุณวราธรบอกว่า งานสถาปนิกเป็นอีเวนต์ที่ทำให้ทางแบรนด์สามารถตามทันเทรนด์อุตสาหกรรมก่อสร้างซึ่งเปลี่ยนไปตลอด  ในครั้งนี้นอกจากอัปเดตเทรนด์ในวงการแล้ว ความพิเศษภายในงานคือ การสื่อสาร ที่ทางแบรนด์สามารถสื่อสารตรงถึงตัวผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง

“เนื่องจากงานสถาปนิกเป็นงานใหญ่ในวงการก่อสร้าง และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ สื่อสารตรงถึง TOA ได้จริง ๆ” คุณวราธรแชร์ถึงมุมมองต่องาน

และเมื่อกล่าวถึงการเข้ามาของตลาดต่างประเทศ ทาง TOA นั้นเป็นแบรนด์ของคนไทย เข้าใจสภาพอากาศบ้านเราดีที่สุด จึงมุ่งมั่นไม่หยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์ นำเอาเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ นั่นคือวิธีคิด ที่เป็นจุดแข็งที่ทำให้ TOA เป็นแบรนด์ชั้นนำ ที่พร้อมปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนไป

Future Tree รากฐานสำคัญเข้าสู่ Net Zero

     เนื่องในปี 2567 นี้เป็นปีพิเศษที่ TOA จะครบรอบ 60 ปี  แต่ประเด็นที่แบรนด์ต้องการสื่อสารไปถึงกลุ่มเป้าหมาย และผู้เข้าชมงานกลับเป็นเรื่องการก้าวเข้าสู่สังคม Net Zero แทน โดยมีเวทีงานสถาปนิกเป็นกระบอกเสียง จึงนำเอา Future Tree คอนเซปต์หลักของบูธ TOA ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ ผนวกกับการนำเสนอที่ไม่จำเจ แต่ยังคงสวยงามไว้อยู่ แบ่งโซนตามประเภทผลิตภัณฑ์ สื่อถึงรากของต้นไม้ที่เปรียบเหมือนแกนหลักของ TOA ว่าสามารถเติบโตไปพร้อมกับโลกใบนี้ได้ ซึ่งปัจจัยหลักคือ การสื่อสารเมสเสจไปสู่ผู้เข้าชมงาน นอกจากนี้ TOA มีการเปิดตัวความสำเร็จล่าสุดผ่านผลิตภัณฑ์ภายในงานด้วยเช่นกัน 

            สุดท้ายนี้ TOA ฝากไปยังทุกท่านว่า TOA กำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองในแง่ของวิธีคิด และการนำเสนอให้มากขึ้น ในช่วงหลายปีมานี้ผู้คนทั่วไปจะมองว่า TOA เป็นผู้เชี่ยวชาญเเค่เรื่องสี แต่ปัจจุบันที่ทุกคนมีสื่อในมือ ทุกคนต่างเชื่อมต่อกัน แบรนด์ต้องปรับตัวให้สามารถเข้าถึงได้ในระดับไมโครได้ด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ TOA เปลี่ยนมุมมองการนำเสนอ และมุ่งหมายจะครองใจผู้ใช้งานให้มากขึ้น

“ เพิ่มเติมไปจากการเน้นยอดขายให้มาก คือการขายอย่างครอบครองใจคนให้มากขึ้นไปพร้อมกัน” คุณวราธรทิ้งท้าย

            ร่วมค้นหาภาพลักษณ์ใหม่ของ TOA ได้ที่บูธหมายเลข S104 ในงานสถาปนิก’67 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00-20.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี