WOODZENSE x Double C การเปิดตัวพาร์ทเนอร์จากแดนมังกร สู่งานไม้ที่ครบเครื่องด้านฟังก์ชันและการออกแบบในงานสถาปนิก’67

     เมื่อความเป็นธรรมชาติของไม้สักทอง หลอมรวมเข้ากับงานดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ WOODZENSE ให้สัมผัสถึงกลิ่นอาย Modern-Luxury แต่ยังแฝงความเรียบง่ายสไตล์ Homey ก่อให้เกิดเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านที่มีการออกแบบและฟังก์ชันการใช้งานที่ไม่ซ้ำใคร

     ด้วยความโดดเด่นด้านดีไซน์ สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย โดยเพิ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ ที่เน้นการออกแบบ Materials ร่วมอัปเดตการออกแบบผลิตภัณฑ์ของ WOODZENSE ผ่านการสนทนาร่วมกับ คุณสิริน ตรีทอง CEO WOODZENSE

WOODZENSE ลูกไม้ที่หล่นไกลต้น

     ทำความรู้จัก WOODZENSE แบรนด์ลูกของ PLATO แม้จะเป็นแบรนด์ในเครือเดียวกัน แต่ในด้านการดีไซน์เรียกได้ว่ามีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง “หากเคยเห็นผลิตภัณฑ์ของ PLATO จะทราบดีว่าแบรนด์เน้นงานด้านเฟอร์นิเจอร์เป็นหลัก ซึ่งการออกแบบจะเป็น Solid Wood Style ที่มีความร่วมสมัย ส่วนจุดเด่นของ WOODZENSE คืองานไม้ที่มีความละเอียดประณีต มีความเป็น Craftsmanship อีกทั้งยังเน้นในด้านของ Materials ซึ่งเหมาะกับนักออกแบบ นอกจากนี้ยังเพิ่มการออกแบบและการผลิตด้านงาน Built-In อย่างครบวงจร ซึ่งมีทั้งงานออกแบบและการผลิต โดยมีการนำวัสดุไม้จริงมาผสมกับงานลามิเนต หรือวัสดุปิดผิวอื่น ๆ เพื่อเพิ่มอีกหนึ่งทางเลือกให้ลูกค้า”

     ด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ลูกค้าจำนวนไม่น้อยให้ความไว้วางใจ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ภายใต้การออกแบบของแบรนด์ “90% ของงานออกแบบจะเป็นการดีไซน์ที่เกิดจากแบรนด์ ส่วนอีก 10% เกิดจากการ Custom ของสถาปนิก หรือในบางกรณีมีการนำผลิตภัณฑ์ของ WOODZENSE ไปปรับใช้ โดยการออกแบบจากดีไซเนอร์ นำวัสดุพื้นไม้จริงไปประยุกต์ใช้และทำเป็นเพดาน ซึ่งสามารถทำได้เนื่องจากแบรนด์มีทีมงานด้านการผลิตและนักออกแบบภายใน ของแบรนด์โดยตรง”

ผลิตภัณฑ์จากไม้ที่ไม่ทำร้ายธรรมชาติ

     อีกหนึ่งข้อสังเกตสำหรับแบรนด์ที่มีไม้เป็นวัสดุหลักด้านการผลิต คือผลิตภัณฑ์จะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมหรือไม่ และแนวทางในการอนุรักษ์จะเกิดขึ้นในทิศทางใด ซึ่งคุณสิริน ได้ไขข้อข้องใจในส่วนนี้ว่า “WOODZENSE เน้นการใช้วัสดุให้เกิดความคุ้มค่า ยกตัวอย่างเช่นการเก็บเศษไม้ที่ได้จากกระบวนการผลิต นำกลับมาให้ดีไซน์เนอร์ออกแบบ และหาแนวทางจัดการวัสดุให้อยู่ในรูปแบบ Zero Waste รวมไปถึงการจัดหาไม้ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตแบรนด์ โดยคัดเลือกไม้สักทองที่มีคุณภาพ ใช้ได้ยืนยาว เลือกเฉพาะไม้ที่มีอายุ 30-40 ปีขึ้นไป เพื่อให้ได้ไม้ที่แข็งแรงคงทนตรงตามมาตรฐาน และต้องเป็นไม้ที่มาจากป่าปลูกที่ถูกต้องตามกฎหมายและผ่านระบบการจัดการที่ดี นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังได้นำหลักการทางด้าน Supply Chain เข้ามาประยุกต์ใช้ควบคู่กับเทคโนโลยีการผลิตเพื่อช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ด้วย”

WOODZENSE x Double C

     สืบเนื่องจากการพัฒนาสินค้า กำเนิดเป็นแบรนด์ WOODZENSE ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีในการนำเสนอสินค้าที่มีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ จากประเทศจีนเพื่อการเติบโตทางธุรกิจ Mr. Vincent Cheung ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร และ Mr. John Cheung หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งและอำนวยการฝ่ายแบรนด์ Double C ร่วมให้มุมมองเกี่ยวกับการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ WOODZENSE “ถือเป็นเรื่องดีที่เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในตลาดประเทศไทย เพราะ Double C มองว่าตลาดไทยมีความเป็นมืออาชีพและความเป็นสากล การที่แบรนด์ทั้งสองมีความสนใจในเรื่องเดียวกันเกี่ยวกับเทรนด์และผลิตภัณฑ์ เพื่อเข้าร่วมงานสถาปนิก’67 ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก และจากประสบการณ์เข้าร่วมงาน ทำให้พบความเป็นมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อ หรือสถาปนิก และนักออกแบบภายใน ซึ่งนับเป็นประตูสู่โอกาสทางธุรกิจ”

Double C เพื่อนคู่คิด มิตรสู่การเติบโต

      Double C เป็นแบรนด์ที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านสแตนเลส เหล็ก โดยสั่งสมประสบการณ์ด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบภายใน การออกแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อนำมาปรับใช้กับผลงาน โดย Mr. John Cheung กล่าวถึงภาพรวมของการเป็นพาร์ทเนอร์ในครั้งนี้ว่า “การตัดสินใจร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ คือ WOODZENSE เป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพในเรื่องการผลิต ไม่ว่าจะเป็น ลามิเนต วัสดุปิดผิวอื่น ๆ รวมไปถึงการ Built-In และแบรนด์ Double C มีวัสดุที่เกี่ยวข้องกับเหล็กและสแตนเลสจำนวนมากที่ประเทศจีน ที่สามารถขนส่งสินค้ามายังประเทศไทยได้ นอกจากนี้ Mr. Vincent ยังเป็นสถาปนิกอันดับต้น ๆ ของประเทศจีน อีกทั้ง American AYA ได้เชิญเขาไปร่วมกันแข่งขันอีกด้วย ทั้งสองแบรนด์จึงมองว่านี่คือก้าวใหญ่ด้านการเติบโตทางธุรกิจ”

     นอกจากนี้ Mr. John Cheung ยังกล่าวต่อว่า “ทางแบรนด์มีการวางแผนที่จะนำเสนอตู้เก็บของที่มีฟังก์ชันที่หลากหลาย ใช้งานสะดวก เหมาะกับพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้าน รวมไปถึงห้องน้ำ นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบเซนเซอร์ที่สามารถเปิด-ปิดไฟได้ผ่านการเคาะ และยังมีฟังก์ชันที่ใช้ชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ได้อีกด้วย นอกจากความหลากหลายด้านฟังก์ชัน ในส่วนดีไซน์ต้องมีรูปลักษณ์ที่ใช้งานง่ายและคงความสวยงาม โดยการทำงานร่วมกับ WOODZENSE และนำเหล็กรวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ นำมารวมกันให้อยู่ในผลิตภัณฑ์เดียว ภายใต้แนวคิดของแบรนด์ที่ยึดมั่นว่าแม้จะอยู่เป็นครอบครัวหรือไม่ก็ตาม เฟอร์นิเจอร์ที่อำนวยความสะดวกให้คุณได้จะนำพาความสุขมาสู่คุณ”

          ร่วมสร้างสรรค์ชีวิตที่เหนือระดับด้วยผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน และความสวยงามด้านดีไซน์จาก WOODZENSE ที่บูธหมายเลข F417 ในงานสถาปนิก’67 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 36 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี