28 เม.ย. - 3 พ.ค. - อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์
28 เม.ย. - 3 พ.ค. - อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์
#architect’26

THEMATIC PAVILION

จุดไฮไลต์ ของงานสถาปนิก

พื้นที่จัดแสดงศักยภาพร่วมกันของ

แบรนด์ซัพพลายเออร์วัสดุก่อสร้าง และสถาปนิก

ซึ่งเป็นการผสานความสามารถในการพัฒนานวัตกรรม

เข้ากับการตีความนวัตกรรมเหล่านั้นตามสไตล์ต่าง ๆ

ออกมาเป็นแนวคิดเชิงสร้างสรรค์

ในฐานะไฮไลต์ของงานสถาปนิก THEMATIC PAVILION  จึงเป็นทั้ง

การจัดแสดงที่โชว์ศักยภาพของวัสดุผ่านการใช้งานในรูปแบบที่แปลกใหม่

แตกต่างไปจากการใช้งานเดิม ๆ ทั่วไป และเป็นทั้งการจัดแสดงที่สร้างประสบการณ์ ผ่านองค์ประกอบต่าง ๆ ที่รวมกันบนพื้นที่ขนาดใหญ่ 

เป็นพื้นที่ที่สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายหลักของงาน ได้แก่ สถาปนิก
นักออกแบบ วิศวกร ผู้รับเหมา นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ รวมถึงได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน อินฟลูเอนเซอร์ บล็อกเกอร์ เป็นจำนวนมาก

past highlights

Material: Aluminum
Designer: Looklen Architects

ด้วยความตั้งใจที่ต้องการนำเสนอมุมมองใหม่ ๆ ของอลูมิเนียม จนออกมาเป็นผลงานที่สามารถเล่าเรื่องราวและมอบประสบการณ์ของการสัมผัสอลูมิเนียมที่แปลกใหม่ด้วยการใช้เส้นอลูมิเนียมแบบ “ผิวมิว (Mill Finish)” ที่เป็นผิวแท้ของอลูมิเนียมที่ไม่ผ่านการเคลือบหรือขัดแต่ง ซึ่งเห็นได้ยากในงานสถาปัตยกรรมทั่วไป อีกทั้งมีการติดตั้งวัสดุในรูปแบบระบบโครงสร้างโมดูลาร์ที่สามารถถอดประกอบและนำกลับมาใช้งานใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้นจึงนำไปพลิกแพลงและพัฒนาต่อในโครงการอื่น ๆ ได้ เพื่อสนับสนุนการลดการใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลือง

Material: Wood-based Panels
Designer: FLAT12x

พาวิลเลียนที่นำไม้อัดมาเป็นวัสดุหลักในการออกแบบ โดยคำนึงถึงการแสดงผิวพรรณและความหนาที่เป็นปัจจัยสำคัญหลักในการเลือกใช้ไม้อัดได้อย่างถูกต้องในการก่อสร้างมาประกอบขึ้นเป็นโครงสร้างเชิงสถาปัตยกรรมในรูปแบบของอุโมงค์ ที่สามารถจัดเป็นพื้นที่แสดงแผ่นไม้อัดได้ในปริมาณมากและยาวต่อเนื่อง เป็นผนังโค้งที่สามารถเพิ่มมิติมุมมองความหนาของไม้อัดได้ รวมถึงสามารถบอกเล่าประวัติความเป็นมาของ VANACHAI ได้อย่างละเอียด โดยมีปลายทางเป็นประติมากรรมเชิงสัญลักษณ์แสดงตัวตนของแบรนด์

Material: Paint and Architectural Coating
Designer: pbm

แรงบันดาลใจของการออกแบบพาวิลเลียนนี้มาจาก “พัดสี (Fan Deck)” ซึ่งเป็นเครื่องมือของนักออกแบบอันเรียบง่ายแต่กลับมีความซับซ้อนในตัวเอง โดยรูปทรงของพาวิลเลียนมีโครงสร้างที่ซ้อนทับกันของชั้นไม้และโครงเหล็กโค้งคล้ายพัดสีที่กำลังคลี่ออก ซึ่งเปรียบเสมือนกับพัดสีที่มีเฉดสีหลากหลายและแตกต่างกันมาประสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ภายนอกออกแบบให้มีสีขาวทั้งหมดเพื่อนำเสนอถึงความเรียบง่ายและให้ผู้เข้าชมได้ใช้จิตนาการอย่างโลดแล่นก่อนเข้าไปภายในพื้นที่เพื่อเปิดรับประสบการณ์หลากสีสันที่สะท้อนถึงช่วงเวลาอันหลากหลายของสีในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสีสันแห่งความสุขที่สดใส เฉดสีอันสงบที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย หรือมิติของแสงและเงาที่สร้างบรรยากาศแตกต่างกันไป

Material: Vinyl Rain Gutter
Designer: ativich

พื้นที่ทางสถาปัตยกรรมที่ทุกคนสามารถเข้าไปสัมผัสภายในมิตินั้นได้ทั้งตัว ซึ่งผู้เข้าชมสามารถสร้างประสบการณ์และมิติต่าง ๆ เสมือนการหมุนภาพในลำกล้องผ่านการปรับหมุนแผ่นสะท้อนภาพในพื้นที่ของ The Forest of Mirrors ที่จะได้เพลิดเพลินในมิติที่แตกต่างจากการใช้วัสดุที่มีความเงาเพื่อลวงตา ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกราวกับแผ่นหลังคาและระแนงไวนิลนั้นลอยตัวและมีน้ำหนักเบา ซึ่งสะท้อนถึงคุณสมบัติพิเศษของผลิตภัณฑ์จาก VG ได้อย่างน่าสนใจ

Material: Solid Teak, Wall Panels
Designer: POAR

พาวิลเลียนถูกออกแบบจากแนวคิด Piece by Piece เพื่อถ่ายทอดเสน่ห์เฉพาะตัวของไม้ธรรมชาติผ่านโครงสร้างสองส่วนที่สะท้อนกระบวนการทำงานร่วมกัน โดยจะวางขนานกันและถ่ายแรงในเชิงโครงสร้าง ในส่วนแรกจะเป็นชั้นวางไม้จากสแตนเลสที่มีการเรียงไม้แต่ละชิ้นโดยเว้นช่องว่างเพื่อให้ไม้ไม่ช้ำจากความชื้นจากการวางซ้อนกันแบบเก่า และทำชั้นวางไม้แท่งเป็นแนวยาวจนกลายเป็นทางเดินชมไม้แต่ละชิ้นในระยะใกล้ตาเพื่อให้สามารถมองเห็นลายไม้แต่ละแผ่นได้ชัดเจนมากขึ้น อีกส่วนหนึ่งของพาวิลเลียน คือ อาคารทรงจั่ว distort ถูกออกแบบให้เป็นเหมือนศาลาโดยใช้ลวดลายและพื้นผิวของไม้เป็นตัวกลางที่สื่อสร้างอารมณ์และมิติในการรับชม ซึ่งโครงสร้างทั้งสองส่วนจะมีช่องทางเดินให้สามารถเดินชมพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่องและสร้างประสบการณ์การมองเห็นวัสดุแต่ละชนิดไปพร้อม ๆ กัน

Material: Aluminium Composite
Designer: Architects & Associates (A&A)

“My Time, My Space” แนวคิดของการออกแบบพาวิลเลียนที่สื่อถึงการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่ต่อเนื่องโดยผสานเรื่องราวของ “เวลา” และ “พื้นที่” ที่สะท้อนถึงความก้าวหน้าของวัสดุอลูมิเนียมที่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยผ่านการใช้เหล็กเป็นแกนหลัก โดยมีเส้นของโครงสร้างเป็นรูปทรงโค้งที่ไหลลื่นเหมือนกับการเคลื่อนที่ของเวลา นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับความรู้สึกของ “พื้นที่ที่สะท้อนตัวตน” และ “คุณค่าในงานออกแบบ” โดยการแสดงความยืดหยุ่นและความสร้างสรรค์ของวัสดุปิดผิว (cladding) จากอลูมิเนียมที่นำมาเรียงกันกว่า 2,000 ชิ้น ผ่านเทคนิคการสร้างพื้นผิวที่มีการปรับมิติได้ตามแสงและเงา ซึ่งเป็นการเปิดประสบการณ์ให้กับผู้เช้าชมที่จะได้เห็นการใช้ cladding ในมุมมองใหม่ ๆ โดยให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิม

#architect’25