พบผู้ผลิตสีครบวงจรภายใต้คอนเซปต์
Eco-Wellness Innovation กับ
“Beger” หนึ่งในกลุ่มพันธมิตรวัสดุที่งานสถาปนิก’65
ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับงานสถาปนิก’65 ที่กำลังจะจัดขึ้นในไม่ช้านี้ เหล่าซัพพลายเออร์ต่างก็เตรียมยกนวัตกรรมต่าง ๆ ไปจัดแสดงกันอย่างเนืองแน่น และหนึ่งในกลุ่มซัพพลายเออร์ยักษ์ของงานนี้อย่าง “พันธมิตรวัสดุก่อสร้าง” ก็ไม่พลาดที่จะเข้าร่วมงาน พร้อมยกสมาชิกในเครือเข้าร่วม
หากจะพูดถึงบริษัทที่เกี่ยวกับ “สี” ในพื้นที่พันธมิตรวัสดุก่อสร้าง ก็คงจะต้องพูดถึง บริษัท เบเยอร์ จำกัด ที่ปีนี้ก็เตรียมปล่อยของโชว์นวัตกรรมอย่างเต็มที่ วันนี้เรามาทำความรู้จัก Beger ก่อนจะไปเจอตัวจริงที่งาน
กว่า 60 ปีที่ดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
Beger เริ่มต้นธุรกิจด้วยการเป็นผู้แทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้างอิฐหินปูนทรายและสีทาอาคารในปี พ.ศ. 2504 โดย คุณประเสริฐ ชัยยศบูรณะ และด้วยวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลที่เห็นว่า คนไทยเรานั้นมีศักยภาพในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพไม่แพ้ชาติอื่นใดในโลก จึงได้กำหนดเป็นพันธกิจที่ชัดเจนในการยกระดับสู่การเป็นผู้ผลิตสีครบวงจรชั้นนำของเมืองไทยให้สำเร็จให้ได้
เริ่มต้นด้วยการบินไปเจรจากับ ไบเออร์ เยอรมนี ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ในปี 2508 จนได้รับการไว้วางใจให้เป็นบริษัทแรก และบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้ร่วมกับ บริษัท ไบเออร์ เยอรมนี พัฒนาและผลิตน้ำมันเคลือบแข็งยูนีเทน ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ มาจำหน่ายในตลาดภายใต้เครื่องหมายการค้า Beger Unithane B-52 และพัฒนาผลิตภัณฑ์สีงานไม้มาอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์สีกลุ่มอื่น ๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ปัจจุบัน Beger มีผลิตภัณฑ์หลัก 5 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ สีทาอาคาร (Decorative Paints) สีงานไม้ (Wood Coatings) เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง (Construction Chemicals) สีที่มีความทนทานสูง (Heavy Duty Coatings) และสีตกแต่งพิเศษ (Special Paints) โดยยังคงพัฒนาธุรกิจได้เติบโตแบบก้าวกระโดดจนขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตสีชั้นนำของเมืองไทยทุกวันนี้
รังสรรค์นวัตกรรมที่ดีที่สุด เพื่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
ปรัชญาของ Beger คือ ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตสี แต่ต้องเป็นผู้รังสรรค์นวัตกรรมเพื่อโลกและเพื่อคุณด้วย ภายใต้สโลแกน Eco-Wellness Innovation (สีนวัตกรรม รักษ์โลก รักคุณ) โดยมุ่งมั่นสร้างสรรค์สีที่มีนวัตกรรม ใส่ใจต่อสุขภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการจัดจำหน่าย รวมถึงขั้นตอนการนำถังสีที่ทำความสะอาดแล้วไปใช้ซ้ำ ทำประโยชน์ได้หลากหลาย ลดความสิ้นเปลืองของการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- เวลา: รวดเร็ว แห้งไว ไม่ต้องรอนาน ช่วยปรับขั้นตอนการทำงานให้เร็วขึ้น เช่น ไม่ต้องทารองพื้น ไม่ต้องผสมทินเนอร์ พร้อมใช้ได้ทันที
- การผลิต: สีทนทานกว่า ลดการใช้พลังงานในการผลิตสี ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ
- เงิน: สีต้องทนทานนานนับ 10 ปี ไม่ต้องทาหรือซื้อสีบ่อย ๆ หารเฉลี่ยต่อวันต่ออายุการใช้งาน คุ้มค่ายิ่งกว่า
- ลดการใช้พลังงาน: หันมาใช้พลังงานสะอาด พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์เซลล์
- ลดปริมาณน้ำเสีย 100%: การผลิตด้วยระบบปิดทั้งหมด ใช้ท่อส่งทั้งกระบวนการ และระบบน้ำหมุนเวียนในขั้นตอนการผลิต ลดการใช้สารเคมีบำบัดน้ำเสีย
- ลดค่าไฟ: สีช่วยสะท้อนความร้อนออกจากผนังและอาคาร ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำความเย็นภายในอาคาร
เป็นต้น จึงนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่า โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตของโลกที่ยังคงความสดใสไว้
พัฒนาผลิตภัณฑ์จากความต้องการของผู้ใช้ สู่นวัตกรรมที่ดีที่สุดจาก Beger
บริษัทเริ่มต้นจากการสำรวจความต้องการผู้บริโภคทั้งในปัจจุบันและในอนาคต นำมาออกแบบนวัตกรรมเพื่อให้ตอบสนองได้ตรงและลงตัวตามความต้องการ โดยมีหลักการที่ว่า นวัตกรรมที่รังสรรค์ออกมานั้นจะต้องใช้ประโยชน์ได้จริง และอยู่ภายใต้ปณิธาน Eco-Wellness Innovation (สีนวัตกรรม รักษ์โลก รักคุณ) ที่ Beger ยึดมั่นเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพแล้ว
วัฒนธรรมการทำงานของ Beger คือ ทีมงานบูรณาการ ที่ทุกฝ่ายจะร่วมกันระดมความคิดสร้างสรรค์ตั้งแต่เริ่มต้นการพัฒนาธุรกิจจนจบโครงการ โดยวัฒนธรรมนี้ช่วยสร้างให้สมาชิกในทีมทุกคนได้มีความเป็นเจ้าของร่วมกัน ทำงานเป็นทีมแบบแทนกันได้ และที่สำคัญ ได้เรียนรู้ระหว่างกันแบบ cross functional learning ด้วย
3 นวัตกรรมไฮไลท์จากสี Beger ครอบคลุมทุกการใช้งาน
ผลิตภัณฑ์งานไม้ เบเยอร์ โพลียูริเทน 1K ซูพรีม เอาท์ดอร์ ก้าวข้ามขีดจำกัดของโพลียูริเทนแบบเดิม ๆ ที่กล้าท้าแดด ท้าฝน ด้วยสูตรเฉพาะ สามารถทาไม้ที่อยู่กลางแจ้ง ทั้งผนังไม้ภายนอก พื้นไม้ภายนอก เฟอร์นิเจอร์ไม้ภายนอก และยังสามารถทาภายในได้ด้วย โดยผลทดสอบจากห้องปฏิบัติการ B.N, Brother เมื่อเทียบกับโพลียูริเทนทั่วไป พบว่า เบเยอร์ โพลิยูริเทน 1K ซูพรีม เอาท์ดอร์ เนื้อฟิล์มหนา ทาเร็วขึ้น แข็งแรง แต่ยืดหยุ่นไม่แตกเปราะง่าย ทนต่อการขีดข่วน แรงกระแทก คลอรีนจากสระน้ำ และไอทะเลได้ดีกว่าเดิม 3 เท่า กลิ่นจางไว แห้งทาทับได้ใน 2-3 ชั่วโมง ปลอดภัยได้มาตรฐาน EN71
ผลิตภัณฑ์ เบเยอร์ชิลด์ กริปเทค ทูอินวัน สีน้ำมันเคลือบเงาเหล็กทุกชนิด ทุกพื้นผิว ผสมรองพื้นกันสนิมในตัว รายแรกในไทยที่สามารถใช้งานอเนกประสงค์ได้ทุกพื้นผิวทั้งเหล็กกล่อง เหล็กกัลวาไนซ์ เหล็กชุบซิงค์ เมทัลชีท กระเบื้อง โลหะทุกชนิด ไม้เทียม ไม้ หรือท่อ PVC เนื้อฟิล์มเข้มข้นทาง่าย กลบมิดดี ด้วยสูตรอะคริลิกเรซินชนิดพิเศษ ทำให้ฟิล์มสีไม่เหลือง สวยสว่างไม่หมองคล้ำ ทนแดดทนฝน โดยผลทดสอบจาก Beger พบว่า แห้งไวทาทับได้ใน 30 นาที กลิ่นจางไว ยึดเกาะ ทนรอยขีดข่วนดีกว่าสีน้ำมันทั่วไป 10 เท่า เงาวาวสวยอย่างยาวนาน
ผลิตภัณฑ์ เบเยอร์ชิลด์ แอร์เฟรช แอนตี้ไวรัส โกลด์ ไอออน สีทาภายใน รายแรกและรายเดียวในไทย มีเทคโนโลยี โกลด์ ไอออน สามารถยับยั้งเชื้อโคโรน่าไวรัส (SARS-CoV-2) บนผนังได้ รับรองผลจากสถาบัน Bio Science ประเทศสหรัฐอเมริกา มั่นใจได้มากกว่าด้วยประสิทธิภาพของประจุทองที่เสถียรกว่าประจุเงิน และอีกหลากหลายการรับรองประสิทธิภาพว่า เบเยอร์ชิลด์ แอร์เฟรช แอนตี้ไวรัส โกลด์ ไอออน เป็นสีทาภายในที่ดีที่สุด ในการปกป้องคนที่คุณรัก เพื่อสุขภาพบ้าน สุขภาพคุณ
คุณสมบัติเยี่ยม ลดเวลาการทำงาน ต้านไวรัส และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
แน่นอนว่าทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ไฮไลท์นี้ นับเป็นนวัตกรรมที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคที่เลือกซื้อเลือกใช้ ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความมั่นใจให้
ผลิตภัณฑ์งานไม้ เบเยอร์ โพลียูริเทน 1K ซูพรีม เอาท์ดอร์ เพียงเปิดฝา แล้วคนสีให้เข้ากัน ก็สามารถใช้งานได้ทันที แห้งไวทาทับได้ใน 2-3 ชั่วโมง ทั้งยังทำให้ฟิล์มมีความแข็งแกร่ง ทนทาน ตอบโจทย์ทุกงานไม้ ใช้งานได้ทุกพื้นผิว ทาทับได้ทุกระบบสี ช่วยประหยัดทั้งเวลา และค่าใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่า
ผลิตภัณฑ์ เบเยอร์ชิลด์ กริปเทค ทูอินวัน สีน้ำมันเคลือบเงาเหล็กที่สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องทารองพื้น ลดค่าใช้จ่าย และขั้นตอนในการเตรียมงาน ทั้งยังแห้งไว ทาทับได้ใน 30 นาที ประหยัดเวลา จึงใช้เวลาที่เหลือได้อย่างคุ้มค่า พร้อมด้วยคุณสมบัติทนทานกว่า เงาระดับเทพ ไม่ต้องซื้อซ้ำ ทาสีบ่อย แถมด้วยคำชื่นชมในฝีมือระดับตำนาน
ผลิตภัณฑ์ เบเยอร์ชิลด์ แอร์เฟรช แอนตี้ไวรัส โกลด์ ไอออน เกิดจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาสีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้ที่อยู่อาศัย Beger พัฒนานวัตกรรมขั้นสุดจาก Gold Ion ในการต่อต้านเชื้อโรคร้ายต่าง ๆ ที่อาจอยู่บนพื้นผนัง ประกอบกับช่วงเหตุการณ์โรคระบาดโควิด-19 Beger จึงต่อยอดความคิดในการปกป้องนี้ ลดขั้นตอนในการคิดค้นนวัตกรรมจนพัฒนาได้สำเร็จ ขณะเดียวกัน คุณภาพของสีที่ทนทานและมีอยู่ในทุกผลิตภัณฑ์ของ Beger ช่วยปกป้องผิวผนังได้ยาวนาน ทนต่อการล้างทำความสะอาดกว่า 400,000 รอบ มอบความคุ้มค่าให้กับผู้เลือกใช้สีนี้
สีที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่ มอบเกราะป้องกันให้คุณ
ด้วยวิถีชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้น ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยหลักเกี่ยวกับเรื่องความสะอาด ใส่ใจต่อสุขอนามัย ผลิตภัณฑ์ เบเยอร์ชิลด์ แอร์เฟรช แอนตี้ไวรัส โกลด์ ไอออน จึงตอบโจทย์ในประเด็นนี้ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
ขณะที่มุมมองด้านเศรษฐกิจซึ่งผู้บริโภคเลือกสรรความคุ้มค่าที่มากขึ้น การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์เรื่องความทนทานของวัสดุหลังจากการทาสี ความสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน เพื่อสามารถใช้เวลาที่เหลือสร้างสรรค์เรื่องราวอื่น ๆ ได้อีกมากมาย จึงช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าจากผลิตภัณฑ์คุณภาพเช่นกัน
นอกจากนี้ ด้านสื่อต่าง ๆ ที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจในสื่อออนไลน์มากขึ้น ก็เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการมุ่งเน้นสื่อของแบรนด์ให้เข้ากับมุมมองของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกในการค้นหาข้อมูล ตอบสนองความต้องการได้อย่างครบถ้วน ลดเวลา ค่าใช้จ่ายในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ รวมถึงการปรับเปลี่ยน/ปรับปรุงที่พักอาศัยที่ผู้บริโภคสามารถทำเองได้ง่าย ๆ ลดความเสี่ยงจากการสัมผัส ทาง Beger ก็มีผลิตภัณฑ์เพื่อตอบรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ เช่น ผลิตภัณฑ์ เบเยอร์ วัน, เบเยอร์ชิลด์ กริปเทค ทูอินวัน, เบเยอร์ ซูพรีม ซึ่งผู้บริโภคสามารถเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เหล่านี้ได้ที่บูธ Beger
เชิญพบ “Breakthrough Innovation” คอนเซ็ปต์ครั้งใหม่ของ Beger ที่งานสถาปนิก’65
ภายในงานสถาปนิก’65 ครั้งนี้ Beger อยากเชิญชวนให้ทุกท่านมาพบกับนวัตกรรมครั้งใหม่ภายใต้แนวคิด “Breakthrough Innovation” ซึ่งเป็นการต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามทิศทางขององค์กร สีนวัตกรรม รักษ์โลก รักคุณ โดยทางแบรนด์ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ผสานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้โดดเด่นกว่าใคร ตอกย้ำและยืนหนึ่งในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ บวกกับความมุ่งมั่นในการพัฒนาที่ไม่เคยหยุดยั้ง จึงอยากให้ทุกท่านได้มาเยี่ยมชมความหลากหลายของนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สีจาก Beger เลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมตรงกับความต้องการ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษที่มีให้เฉพาะภายในงานเท่านั้น
พบกันที่บูธหมายเลข S303 ในพื้นที่ของกลุ่มพันธมิตรวัสดุก่อสร้าง งานสถาปนิก’65 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 34 ระหว่างวันที่ 26 เม.ย.-1 พ.ค. 65 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี