ร่วมสำรวจเทรนด์วัสดุปูพื้นไปกับ Thai-German Decor ก่อนลุยงานสถาปนิก’66

• Facebook
• Twitter
• Line

เคยสงสัยหรือไม่ว่าพื้นที่เราเหยียบอยู่ทุกวัน มีผลต่อไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของเราอย่างไร แล้ววัสดุปูพื้นมีความเกี่ยวข้องต่อประเด็นเหล่านี้หรือไม่ มาร่วมสำรวจนวัตกรรมที่มอบผิวสัมผัสให้กับการใช้ชีวิตไปพร้อม ๆ กัน โดยวันนี้เราขอเจาะลีกไปที่นวัตกรรมวัสดุปูพื้นสำเร็จรูปนำเข้าไปกับ ไทย-เยอรมัน เดคคอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุปูพื้นคุณภาพสูงจากยุโรปและผู้นำเข้าพื้นไม้ลามิเนตพรีเมียมแบรนด์ KRONOTEX จากเยอรมนีกับผู้ให้สัมภาษณ์ของเรา คุณศิริญญา สุทธพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ จาก บริษัท ไทย-เยอรมัน เดคคอร์ จำกัด ที่จะมาเล่าเบื้องหลังของนวัตกรรมวัสดุปูพื้นในมุมมองที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนจนหมดเปลือก

เบื้องหลังของนวัตกรรมที่เกิดจากความใส่ใจ

นวัตกรรมไฮไลท์ที่ออกแบบมาเพื่อ
ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนไทย

“ปัจจุบันนี้ลูกค้ามีความคาดหวังกับวัสดุตกแต่งสูงขึ้นกว่าในอดีตมาก เช่น ต้องกันน้ำ ทนทาน มีความสวยงาม และดูแลรักษาง่าย เราจึงตั้งใจเฟ้นหาวัสดุปูพื้นที่ตอบโจทย์ในทุกความต้องการและการใช้งานของลูกค้า คือซื้อแล้วจบ ใช้งานได้อย่างไร้กังวล”

ซึ่งในงานสถาปนิก’66 ที่จะจัดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ทางแบรนด์ก็พร้อมที่จะนำเสนอพื้นไม้นวัตกรรมใหม่เจ้าแรกของโลกอย่าง “COREPEL” ให้เราได้ลองสัมผัสกัน ความโดดเด่นของนวัตกรรมนี้ คือ เป็นพื้นไม้ผสมเรซินจากสวิตเซอร์แลนด์ มีส่วนประกอบหลักจากไม้จริงมากกว่า 50% อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการกันน้ำได้ 100% จึงเหมาะกับคนไทยที่กังวลเรื่องพื้นเปียก พื้นบวมน้ำ เพราะทางแบรนด์การันตีได้เลยว่า COREPEL สามารถตอบโจทย์ในประเด็นดังกล่าวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องพื้นเปียก พื้นบวมน้ำ พื้นเป็นรอย เราจึงปรึกษากับโรงงานผลิตที่สวิตเซอร์แลนด์ในการผลิตคิดค้นนวัตกรรมที่สามารถกันน้ำได้ 100% ทนทาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนในที่สุดเราก็ได้เปิดตัว COREPEL ผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ที่เราอยากจะให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสในงานสถาปนิก’66”

สำหรับใครที่สนใจอยากลองสัมผัส COREPEL นั้น ทางเราขอเผยคุณสมบัติและฟังก์ชันที่จะทำให้คุณตัดสินใจเดินเข้าบูธของ ไทย-เยอรมัน เดคคอร์ แบบพิเศษที่นอกเหนือจากคุณสมบัติข้างต้นแล้ว ในด้านผิวสัมผัส COREPEL ก็มอบผิวสัมผัสที่เสมือนไม้จริง มีการเซาะร่อง เน้นให้พื้นผิวเกิดลวดลายไม้สวยงามเหมือนธรรมชาติ และที่สำคัญคือเนื่องด้วยตัวแกนกลางที่ทำจากไม้ผสมเรซิ่นจึงส่งผลให้ COREPEL มีอัตราการยืดหดตัวที่ต่ำมาก สามารถเซ็ทตัวได้ดี ทนต่อความเสียหายของผิวหน้าเมื่อเจอแรงกระแทก รองรับต่อทุกกิจกรรมทั้งในบ้าน สำนักงาน และพื้นที่สาธารณะ จึงนับว่าเป็นนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับความสุขในบ้านของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง

ส่วนประกอบจากไม้ธรรมชาติกับคุณสมบัติที่ซ่อนอยู่

อย่างที่เราทราบกันดีว่าวัสดุทดแทนไม้นั้นมีหลายประเภทในท้องตลาด บางประเภทเราอาจจะได้ยินในเรื่องของคุณสมบัติมาบ้าง แต่บางประเภทเราก็อาจจะไม่ทราบเลย เช่นเดียวกันกับผู้เขียนที่อยากจะชวนให้คุณผู้อ่านมาสงสัยไปกับเราว่าเพราะอะไรวัสดุปูพื้นที่มีส่วนผสมของไม้ จึงยังเป็นวัสดุทดแทนไม้จริงที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกใช้แทนวัสดุประเภทอื่น

“ด้วยลักษณะนิสัยของคนไทย เราถอดรองเท้าเดินในบ้าน แล้ววัสดุปูพื้นที่มีส่วนประกอบหลักทำจากไม้ จะสามารถให้อุณหภูมิพื้นผิวที่เหมาะสม เดินแล้วไม่เย็นชื้น มีผิวสัมผัสที่ไม่แข็งจนเกินไป อีกทั้งยังเหมาะกับผู้สูงวัยในแง่ของสุขภาพ” คุณศิริญญา กล่าว

ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วก็ต้องโยงไปถึงคำถามที่ว่าทำไมถึงมีการเลือกใช้พื้นไม้ลามิเนตแทนไม้จริง โดยคำตอบแรกที่เราสามารถเข้าใจได้ทันทีเลยคือในเรื่องของราคาที่ค่อนข้างสูง ในส่วนต่อมา คุณศิริญญา ได้ขยายความไปถึงการดูแลรักษาที่ต้องมีการขัดทำสีใหม่ สำหรับพื้นไม้เอนจิเนียร์ผู้ใช้มักประสบปัญหาเรื่องรอยขีดข่วน ติดตั้งยาก และมีปัญหาเรื่องการซ่อมและรื้อถอน

เมื่อเข้าใจถึงปัญหาการเลือกใช้ไม้และวัสดุทดแทนไม้ประเภทอื่นแล้ว คุณศิริญญาก็พาวกกลับมาที่เรื่องคุณสมบัติของพื้น COREPEL ที่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้

เทรนด์ที่มาคู่กันกับความรู้ในการเลือกบริโภคสินค้า

แน่นอนว่าในยุคที่ผู้คนหยิบยกเอากระแสความยั่งยืนขึ้นมาเป็นหลักในการพัฒนานวัตกรรมและขับเคลื่อนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคม จึงกลายเป็นคำถามที่ตกตะกอนจากความคิดที่โยงใยกับกระแสดังกล่าวว่า เทรนด์การรักษ์โลกและกระแสความยั่งยืนมีผลมากน้อยเพียงใดต่อการเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ ไทย-เยอรมัน เดคคอร์

แต่ก่อนที่จะไปค้นหาคำตอบ คุณศิริญญา ได้เกริ่นให้เราเข้าใจถึงเรื่องเทรนด์ก่อนที่จะไปลงรายละเอียดว่า “เทรนด์ในปัจจุบันหากเรามองในภาพรวมจะเห็นถึงเทรนด์ที่เป็นกระแสชั่วคราว และเทรนด์ที่คนให้ความสำคัญและมีผลต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา”

“ในช่วง 4-5 ปีมานี้ คนไทยมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม ประกอบกับที่ในปัจจุบันผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ผู้บริโภคจึงมีพื้นฐานความรู้ในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ ทั้งในแง่ของวัสดุ เรื่องฟังก์ชันเพื่อให้เหมาะกับความต้องการใช้งาน ไปจนถึงกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพ หรือแม้แต่แหล่งผลิตและแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่เชื่อถือได้”

“ในช่วง 4-5 ปีมานี้ คนไทยมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม ประกอบกับที่ในปัจจุบันผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ผู้บริโภคจึงมีพื้นฐานความรู้ในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ ทั้งในแง่ของวัสดุ เรื่องฟังก์ชันเพื่อให้เหมาะกับความต้องการใช้งาน ไปจนถึงกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพ หรือแม้แต่แหล่งผลิตและแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่เชื่อถือได้”

ผิวสัมผัสที่ปลอดภัยและนวัตกรรมที่สอดรับกับ
ไลฟ์สไตล์ของทุกวัยในงานสถาปนิก’66

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนวัตกรรมใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชัน ซึ่งถูกยกให้เป็นไฮไลท์ของทางแบรนด์และรอมาเซอร์ไพรส์ในงานสถาปนิก’66 พร้อมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ ไทย-เยอรมัน เดคคอร์ ที่อยากเชิญชวนให้มาสัมผัส อาทิ พื้นปลอดภัย SAFETY FLOOR ที่เหมาะกับเด็กและผู้สูงวัย ทั้งหมดถูกรวมไว้ที่บูธหมายเลข F209 ในงานสถาปนิก’66 งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 25 – 30 เมษายน 2566 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี